งาขาว vs งาดำ ต่างกันอย่างไร กินอะไรได้ประโยชน์กว่า? . ทั้ง “งาดำ” และ “งาขาว” ห…

งาขาว vs งาดำ
ต่างกันอย่างไร กินอะไรได้ประโยชน์กว่า?
.
ทั้ง “งาดำ” และ “งาขาว” หลายคนคงจะคุ้นเคยกับการนำไปใช้โรยหน้าพวกขนมอบ หรืออาหารทั้งคาวและหวาน ซึ่งช่วยเพิ่มรสสัมผัส ความหอม และรสชาติให้กับอาหารได้เป็นอย่างดี แต่สงสัยกันไหมคะว่า “งาขาว” และ “งาดำ” นั้นมีคุณประโยชน์ต่างกันอย่างไร แล้วกินอะไรได้ประโยชน์กว่ากัน? วันนี้ Bluzone ได้รวบรวมข้อมูลของงาทั้งสองชนิดมาฝากกันค่ะ
.
จริงๆ แล้ว งาขาวและงาดำนั้นแม้จะเป็นพืชตระกูลล้มลุกเหมือนกัน แต่ก็ถือเป็นคนละสายพันธุ์กันค่ะ โดยรสชาติและรสสัมผัสจะมีความแตกต่างกันดังนี้
.
⚫️ งาดำ จะมีเปลือกบางๆ ที่ห่อหุ้มเมล็ด ไม่จำเป็นต้องกะเทาะเปลือกก่อนรับประทาน มีกลิ่นสัมผัสที่หอม เข้ม หนักไปทางขม และมีความกรอบในตัว รสสัมผัสจะกรอบกว่างาขาว
.
⚪️ งาขาว มีเปลือกแข็งห่อหุ้มเมล็ด จึงต้องกะเทาะเปลือกออกก่อน เพื่อรับประทานเฉพาะเมล็ดสีขาวข้างใน กลิ่นสัมผัสหอม ละมุน และเมล็ดมีความนุ่มนวล (เปลือกของงาขาวมีหลายสี ทั้งแดง ดำ และน้ำตาล)
.
⚫️⚪️เปรียบเทียบสารอาหารจากงาทั้งสองชนิด ⚫️⚪️
👉 จากข้อมูลทางการแพทย์ พบว่าทั้งงาขาวและงาดำนั้นมีสารอาหารที่ใกล้เคียงกันค่ะ แต่ส่วนที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนก็คือ “แคลเซียม” ในงาดำนั้นสูงกว่างาขาวเป็นอย่างมากค่ะ (งาขาว 100 กรัมมีแคลเซียมประมาณ 90 มิลลิกรัม ส่วนงาดำ 100 กรัมมีแคลเซียมประมาณ 975 – 1,469 มิลลิกรัม)
.
ด้วยเหตุนี้ งาดำจึงมีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันมากกว่างาขาว เพราะแคลเซียมนั้นจะอยู่ที่เปลือกของงาดำ ซึ่งเราไม่ต้องกะเทาะเปลือกออกก่อนรับประทานนั่นเอง จึงได้แคลเซียมไปมากกว่าการทานงาขาวค่ะ โดยแคลเซียมนั้นจะช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมวลกระดูกให้มีความแข็งแรง รวมถึงช่วยซ่อมแซมกระดูกที่อ่อนแอจากโรคกระดูกพรุน
.
✅ ประโยชน์ของงาทั้งสองชนิด
👉 งาดำ งาขาว และงาทุกชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญก็คือ เซซามิน (sesamin) เซซาโมลิน (sesamolin) และเซซามอล (sesamol) ซึ่งจะช่วยเสริมภูมิต้านทานอวัยวะอย่าง ตับ สมอง และหัวใจ รวมถึงช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผม เพราะเซซามิน ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ทำร้ายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ช่วยชะลอความแก่ สร้างภูมิคุ้มกันใหักับผิว และซ่อมแซมเซลล์ผิว
.
👉 นอกจากนี้ งายังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงถึง 80% ซึ่งเมื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมัน ก็จะได้ทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 กรดโอเลอิก และกรดไลโนเลอิก ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวและหลอดเลือดตีบ ช่วยให้ระบบหัวใจแข็งแรง รวมถึงบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น และบำรุงผม
.
🫘🍚🥜 กินงาอย่างไรได้ประโยชน์สูงสุด?
▪️ แม้ว่างาจะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ แต่ก็มีแคลอรี่ค่อนข้างสูง หากกินมากเกินไปก็อาจทำให้อ้วนได้ ดังนั้นจึงควรกินในปริมาณที่เหมาะสม คือ 10 -15 กรัม หรือ ไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะ
▪️เคี้ยวงาให้ละเอียดเพื่อให้ได้สารอาหารเต็มที่ หรือแนะนำให้นำไปคั่วแล้วบดให้ละเอียด (แต่ต้องระวังงาไหม้ด้วยนะคะ เพราะเมล็ดงามีขนาดเล็กทำให้ไหม้ง่ายมาก)
.
#อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ #Health #งาขาว #งาดำ

ติดต่อเรา