13 เทคนิคในการจัดการกับความเครียด คนที่รู้วิธีจัดการกับความเครียดได้ไว จะมีความ…

13 เทคนิคในการจัดการกับความเครียด

คนที่รู้วิธีจัดการกับความเครียดได้ไว จะมีความสุข และมีสุขภาพดี แข็งแรง มากกว่าคนที่ชอบหมกมุ่นอยู่กับความเครียด ดังนั้น…เราจะมาดูเทคนิคการจัดการกับความเครียดกันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

1 มีทัศนคติเชิงบวก ➕
การมีทัศนคติในทางบวกต่อสิ่งต่างๆในชีวิต ไม่เหมือนกับคำว่าโลกสวย มองหาแต่สิ่งที่จะทำให้จิตใจมีความสุขนะคะ ทัศนคติทางบวกคือการพยายามที่จะมองให้เห็นว่าสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราตอนนี้จะสร้างโอกาส หรือให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อชีวิตในด้านใดบ้าง และปรับเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสนั่นเอง

2 ปล่อยวาง 🤲
ชีวิตในโลกนี้เป็นสิ่งที่เราควบคุมได้จากพฤติกรรมของเรา 95% และเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้จากพฤติกรรมของผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม 5% หากเราควบคุมในส่วนที่เราควรคุมได้จนเต็มที่แล้ว หากสถานการณ์ต่างๆออกมาไม่เป็นตามแผนที่วางไว้ มีอุบัติเหตุ หรือเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เราก็ต้องยอมรับว่าโลกนี้มีบางสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้จริงๆ ดังนั้นผลลัพธ์จึงไม่ใช่สิ่งสำคัญ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แค่ทำสิ่งที่เราควบคุมได้เท่าที่เราจะทำได้ โดยไม่ต้องคาดหวังว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นใด

3 หนักแน่น ❗️
การใช้ชีวิตไปตามคำสั่ง การชักจูงของผู้อื่น การยอมทำเพราะเกรงใจผู้อื่น อาจทำให้สายสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีก็จริง แต่เป็นเพียงในระยะสั้นเท่านั้น เพราะเมื่อต้องยอมไปนานๆเราจะรู้สึกอึดอัดและรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบจนกลายเป็นเก็บกด แล้วมารู้สึกหงุดหงิด หรือซึมเศร้าทีหลัง นำไปสู่การตัดขาดความสัมพันธ์กับคนผู้นั้นในที่สุด
การกล้าปฏิเสธโดยใช้คำพูดที่ให้เกียรติทั้งตนเองและผู้อื่น อาจทำให้มีคนรู้สึกผิดใจคุณเล็กน้อยในวันนี้ แต่จะไม่สะสมเป็นการผิดใจอย่างรุนแรงในวันข้างหน้า

4 ผ่อนคลาย 😌
คนเราสามารถหาวิธีการผ่อนคลายได้หลากหลายแล้วแต่ความชอบ บางคนเลือกการช็อปปิ้ง ไปเที่ยว และการดูหนัง แต่การผ่อนคลายที่ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ย่อมหนีไม่พ้นการออกกำลังกาย คุณไม่จำเป็นต้องไปวิ่งให้หอบเหนื่อยทุกวัน แค่ยืดเส้นยืดสายออกกำลังกายเบาๆด้วยท่าง่ายๆอย่างโยคะ ไทชิ พิลาทิส ซึ่งเป็นการออกกำลังกายไปพร้อมๆกับการทำสมาธิ จะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานความเครียดในระยะยาว

5 มีวินัย 🙍‍♂️
การกำหนดวินัยในการใช้ชีวิต จะรู้สึกเครียดในระยะแรกๆ แต่จะส่งผลดีต่อสภาพจิตใจและชีวิตในระยะยาว คุณเพียงกำหนดตัวเองให้มีวินัยในการใช้ชีวิตตามแผนการที่วางไว้ แบบเรื่อยๆทีละนิด ค่อยเป็นค่อยไป เมื่อคุณมีวินัยและเริ่มทำตามตารางเวลาชีวิตได้ดีขึ้น ชีวิตคุณจะเริ่มเปลี่ยนไปในทางบวกอย่างเห็นได้ชัด

6 ดูแลร่างกายด้วยอาหารที่ดี 💪
กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควบคุมอาหารให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่กินมากไป หรือน้อยเกินไป ไม่กินอาหารจำเจซ้ำซาก แต่กินให้หลากหลาย และเน้นไปที่ผัก ผลไม้ แร่ธาตุต่างๆในผักผลไม้จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและช่วยลดทอนความเครียดสะสมได้ดี

7 บริหารเวลา ⏰
ความเครียดมักจะเกิดเมื่อเรารู้สึกว่าเราไม่มีเวลาที่จะทำทุกอย่างให้สำเร็จตามแผน หรือเรามีเวลาให้ตัวเองน้อยเกินไปในแต่ละวัน ทำอะไรก็ไม่ทันสักอย่าง ดังนั้นหากเราบริหารเวลาให้ดี และใช้เวลาที่ผ่านไปให้เป็นประโยชน์สูงสุด เราก็จะรู้สึกเครียดน้อยลง

8 กำหนดของเขตของตัวเอง 🗣
มีขอบเขตของตัวเอง และอย่าให้คนอื่นล้ำเส้น ต้องกล้าปฏิเสธในสิ่งที่จะทำให้คุณลำบากใจและรู้สึกเครียดเพราะต้องฝืนใจทำ เราสามารถยืนหยัดในความต้องการของตนเองได้โดยไม่ต้องทะเลาะกับคนอื่น เพียงแค่คุณต้องกำหนดขอบเขตของตัวเอง และกล้าออกความคิดเห็น อย่างตรงประเด็นและชัดเจนโดยไม่ใช้อารมณ์ในการพูด ไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมค้อมในเวลาที่จะบอกว่าเราไม่ชอบอะไร หรือไม่ต้องการทำอะไร เรารู้สึกฝืนใจที่จะทำด้วยเหตุผลอะไร รวมถึงยอมเดินหน้าคนละครึ่ง โดยต่อรองว่าคุณคุณมีข้อจำกัดส่วนตัวเท่าไหร่บ้าง และสะดวกใจทำให้หรือยอมรับข้อเสนอได้เท่านี้ด้วยเหตุผลอะไรบ้าง

9 ทำในสิ่งที่ชอบและรัก 💕
หาเวลาในการทำงานอดิเรกที่ตนเองชอบ หรือสิ่งที่คุณกำลังสนใจ เช่น ดูหนัง อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือการไปเดินช็อปปิ้งที่ห้าง แต่งานอดิเรกที่ดีที่สุดคืองานที่เราสามารถทำเป็นอาชีพได้เลย เป็นงานที่สร้างทั้งรายได้และความสุขให้คุณ เป็นงานที่เข้ามาเติมเต็มชีวิต ดังนั้นหน้าที่ของคุณคือการค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่คุณรัก และสามารถหาเงินมาให้คุณได้ใช้ชีวิตต่อในเส้นทางที่ตนเองชอบด้วยค่ะ

10 นอนหลับให้เพียงพอ 💤
นอนหลับพักผ่อนให้ตรงเวลา และเพียงพอ แม้จะเครียดเพียงใดก็ขอให้หลับให้ได้ “หลับก่อนพรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อ” ควรเป็นประโยคที่คุณพูดซ้ำๆกับตัวเองในเวลาที่มีปัญหาคาราคาซังและยังไม่พบทางแก้ เพราะไม่แน่ เมื่อคุณหลับไปแล้วตื่นมาอีกครั้ง คุณจะพบว่าสมองได้จัดการฟื้นฟูจิตใจ และเรียบเรียงข้อมูลใหม่ให้เรา และคุณอาจค้นพบหนทางแก้ปัญหาได้อย่างง่ายๆในที่สุด

11 อย่าใช้ทางลัดในการกำจัดความเครียด ❌
การใช้ยาเสพย์ติดประเภทแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาระงับประสาท เป็นตัวช่วยในการกำจัดความเครียดเพียงแค่ชั่่วคราว แต่เมื่อฤทธิ์ของมันหมด คุณจะพบว่าอารมณ์ของคุณพุ่งลงไปสู่ทางลบมากกกว่าก่อนที่คุณจะใช้มันเสียอีก ดังนั้นอย่าไปพึ่งพาแอลกอฮอล์หรือยาเสพย์ติดเพื่อลดความเครียด เพราะมันคือกับดักที่นำไปสู่ความเครียดมากกว่า …เดิมเมื่อไม่ได้รับมัน

12 สร้างสายสัมพันธ์กับคนรอบข้าง 👨‍👩‍👧‍👦
ให้เวลากับคนใกล้ชิด และใช้เวลากับคนที่เรารักให้เพียงพอ ให้ความสนใจกับคนที่สนับสนุนเรา เพื่อรับความรักและความอบอุ่นให้มากพอ จนไม่รู้สึกโหยหาการเข้าสังคม หรืออยากได้รับการยอมรับจากบุคคลภายนอก เพราะจริงๆแล้วบุคคลอื่นไม่ได้มีความสำคัญต่อชีวิตเรา และเราก็ไม่มีความสำคัญในชีวิตเขามากเท่าที่เราคิด คนใกล้ตัวเรา คือคนที่ทั้งเราและเขามีอิทธิพลต่อชีวิตกันและกันอย่างแท้จริง

13 หมั่นไปตรวจสุขภา่พจิตให้บ่อยพอๆกับไปตรวจร่างกาย 👩‍⚕️🧑‍⚕️
รู้หรือไม่คะ… ในบางโรงพยาบาล หรือบางคลีนิค จิตแพทย์จะมีเครื่อง biofeedback ที่ใช้ในการตรวจจับความเครียดที่สะสมในตัวเรา เช่น การเกร็งของกล้ามเนื้อ อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น หายใจเร็วและหายใจตื้น ซึ่งทำให้เลือดขาดออกซิเจนที่เพียงพอ และส่งผลต่ออาการเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัว การไปพบจิตแพทย์บ้าง จึงเป็นเรื่องที่ควรทำ เราควรไปตรวจเช็คสุขภาพจิตประจำปี พอๆกับการตรวจร่างกายประจำปี เพื่อที่จะได้เช็คว่าตนเองมีความเครียดในเรื่องใดเป็นพิเศษ มีการนอนหรือการกินผิดปกติอย่างไร จะได้หาทางแก้ไขทันก่อนเป็นโรคสะสมจนเกิดเป็นภาวะทางจิตในอนาคต
สนใจสินค้าสุขภาพที่คุณหมอพูดถึง สามารถสั่งซื้อได้ทาง กล่องข้อความหน้าเพจ หรือ
Line@ของคลีนิคค่า
✅LINE : https://lin.ee/piE9kvf
——————————-
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
📌 เพจ : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 Youtube : https://youtube.com/c/อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 IG : dr.cant.help

ติดต่อเรา