นักโภชนาการได้กล่าวถึงคุณประโยชน์ต่อสุขภาพของถั่ววอลนัทที่อาจมีมากจนคุณคาดไม่ถึง เราอาจจะคุ้นกับการเห็นวอลนัทบนขนม คุ๊กกี้ ช็อคโกแล็ตแท่ง หรือในชามสลัด แต่วอลนัทไม่ได้เป็นแค่ของตกแต่งบนชามอาหารเท่านั้น แต่มันสามารถแทนที่ขนมขบเคี้ยว ของว่าง หรืออาหารจานหลักได้เลย
1.วอลนัทอุดมด้วยสารอาหารครบถ้วน
วอลนัทเป็น 1 ในถั่วมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุด มีสารอาหารสำคัญ มีไฟเบอร์ โปรตีน และไขมัน รวมถึงคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน แร่ธาตุ วิตามิน ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ในถั่ววอลนัท 7 เมล็ด มีไขมันดีประมาณ 18 กรัม โปรตีน 4 กรัม และเส้นใยอาหาร 2 กรัม อุดมด้วยแมคนีเซียม ธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินบี แมงกานีสที่ช่วยในการรักษามวลกระดูก บรรเทาอาการเจ็บปวด และเป็นสารสำคัญในการสร้างคอลลาเจน
สารต้านอนุมูลอิสระในวอลนัท จะช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ป้องกันการติดไวรัส เป็นสารต้านมะเร็ง โรคหัวใจ และความผิดปกติทางระบบประสาทต่างๆ
2.กรดไขมันดีในวอลนัทให้ผลดีมากกว่าที่คุณคิด
วอลนัทอุดมไปด้วย กรดอัลไฟไลโนเลอิค หรือ ala ซึ่งเป็นกรดโอเมก้า-3 ที่ช่วยลดอาการอักเสบทุกชนิดในร่างกาย ในวารสารงานวิจัยด้านสุขภาพเมื่อปี 2020 ทดลองให้คนกลุ่มหนึ่งรับประทานวอลนัทประมาณ 2-3 ออนซ์ต่อวัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ นอกจากจะทำให้กลุ่มผู้ร่วมการทดลองมีระดับโอเมก้า-3 ในร่างกายสูงขึ้น น้ำหนักยังลดลง อัตราไขมันในร่างกายก็ลดลง ร่างกายผอมบางลง และมีน้ำในร่างกายสูงขึ้น
3.ถั่ววอลนัทช่วยเรื่องลำไส้และหัวใจ
จากการศึกษากลุ่มคนที่มีน้ำหนักตัวเกินขนาดและมีปัญหาเรื่องหลอดเลือดหัวใจ โดยให้รับประทานวอลนัทเป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า มีแบคทีเรียดีในลำไส้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อการขับถ่าย ลดความดันเลือด และคอเลสตอรอลในร่างกาย
จึงเป็นอาหารที่เหมาะอย่างมากในการลดน้ำหนักและสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ
4.ถั่ววอลนัทช่วยลดความดันเลือด
การการศึกษาในวารสารทางการแพทย์ของอเมริกันเกี่ยวกับโรคหัวใจ ปี 2019 เปรียบเทียบกลุ่มคนที่น้ำหนักตัวเท่ากัน ระหว่างกลุ่มที่รับประทานวอลนัท และกลุ่มที่ไม่รับประทาน พบว่า กลุ่มคนที่รับประทานวอลนัท มีความดันเลือดดีขึ้น คลอเรสเตอรอลลดลง ซึ่งหมายความว่าแค่เราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเล็กๆน้อยๆ เพิ่มวอลนัทเข้าไปในมื้ออาหาร อาจส่งผลเป็นคุณประโยชน์ใหญ่ต่อหลอดเลือดและหัวใจของเราเลยล่ะค่ะ
5.ถั่ววอลนัทช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของสมอง
ในการศึกษาวิจัยด้านสมองของวารสารประสาทวิทยาของสหรัฐฯ กับกลุ่มผู้ทดลองสูงอายุ 600 คนที่รับประทานวอลนัทประมาณ 15 % ของแคลอรี่ที่ต้องการในแต่ละวัน พบว่าการรับประทานวอลนัทไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดีอยู่แล้ว แต่ในทางตรงกันข้าม วอลนัทส่งผลดีมากๆในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น ดื่มจัด สูบบุหรี่จัด การกินถั่ววอลนัทจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนใช้ชีวิตหนักๆที่จะหันมาเริ่มดูแลสุขภาพตัวเองเสียที
6.ถั่ววอลนัทช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม
การทดลองให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม รับประทานถั่ววอลนัทประมาณ 2 ออนซ์ต่อวัน เป็นเวลา 2 -3 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด พบว่าวอลนัทส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของยีนส์ 450 ตัวในเซลล์มะเร็ง และช่วยกดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และทำให้อัตราการฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัดดีขึ้นมาก
7.ถั่ววอลนัทช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
จากการทดลองกลุ่มคนในศูนย์วิจัยทางสุขภาพ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้กินสมูตตี้ที่มีส่วนผสมของวอลนัท และกลุ่มที่สองให้กินสมูทตี้ที่ไม่มีส่วนผสมของวอลนัท พบว่าคนกลุ่มแรกที่ได้รับวอลนัท และช่วยลดความรู้สึกหิวและอยากอาหารในระหว่างวัน แสดงว่าการรับประทานถั่ววอลนัท น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดน้ำหนักด้วย
8.ถั่ววอลนัทช่วยเรื่องการสืบพันธ์ุในเพศชาย
การกินถั่วส่งผลต่อพฤติกรรมทางเพศของผู้ชายด้วย ในการทดลองทางโภชนาการปี 2019 ที่ให้กลุ่มผู้ร่วมการทดลองชายรับประทานวอลนัท ผสมกับถั่วอื่นๆ เช่น อัลมอนด์ และเฮเซลนัทด้วย ช่วยเพิ่มความรู้สึกต้องการทางเพศ และสามารถทำให้ถึงจุดสุดยอดได้ง่ายขึ้น
การกินวอลนัททุกวันอาจทำให้รู้สึกจำเจ แต่มีหลายวิธีที่ทำให้เราสนุกกับการกินถั่ววอลนัทได้ คุณสามารถนำไปผสมในอาหารอื่นๆ เพื่อลดความรู้สึกเบื่อลงได้ เช่น ผสมในเครื่องดื่มทำเป็นสมูตตี้ เอาไปทำยำกับผักต่างๆ ก็น่าอร่อย หรือจะบดเป็นผงแล้วนำไปโรยซุป ผสมเป็นนม หรือเอาไปทำเป็นน้ำสลัดก็ได้รสชาติที่แตกต่างหลากหลาย ไม่จำเจแล้วล่ะค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจในคลังความรู้ของเรา:
กินเบคอนยังไงให้สลายไขมัน!
Egg Fasting
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
Facebook Page: อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
Youtube : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
IG : dr.cant.help
LINE : Add เป็นเพื่อนผ่าน QR Code หรือค้นหา @bluphama
สามารถมาพูดคุยกับสมาชิก และคุณหมอได้ในกลุ่มเฟซบุ้คของเราได้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/groups/1131079083894264/