คนเราควรปัสสาวะบ่อยแค่ไหนถึงจะเรียกว่าปกติ
เกือบทุกคนมักสงสัยว่าตนเองปัสสาวะบ่อยเกินไปหรือเปล่า จริงๆแล้วคนที่มีสุขภาพดีสามารถปัสสาวะได้ถึงสิบครั้งใน 1 วัน หรือ 24 ชั่วโมง โดยจำนวนเฉลี่ยของการปัสสาวะของคนทั่วไปมักอยู่ที่ 7 ครั้งต่อ 1 วัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
1.โรคเบาหวาน การมีน้ำตาลมากเกินไปในกระแสเลือดทำให้ร่างกายจำเป็นต้องขับน้ำตาลออกจึงทำให้คุณปัสสาวะบ่อยขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
2.โรคโลหิตจาง การมีเซลล์เม็ดเลือดหลุดลอดเข้าไปในกระแสเลือดทำให้ไตต้องทำงานหนักในการขับปัสสาวะที่มีเซลล์ส่วนเกินออก
3.การตั้งครรภ์ – หลังคลอดลูก การปัสสาวะบ่อยเป็นอาการปกติของหญิงมีครรภ์ ซึ่งจะเกิดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคลอดลูก
4.hypo-hypercalcemia การรับแคลเซียมเข้าไปในร่างกายมากเกินไป หรือ การมีแคลเซียมในร่างกายน้อยเกินไป ล้วนเป็นผลให้การไหลของปัสสาวะผิดปกติได้ทั้งสิ้ัน
5.การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI) หรือเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักเกิดกับผู้หญิงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือรู้สึกระคายเคืองบริเวณท่อปัสสาวะ หรือที่พบบ่อยและเรียกกันว่าโรคฮันนีมูน มักเกิดกับผู้หญิงที่เพิ่งมีคนรักและมีเพศสัมพันธ์กับคนรักถี่เป็นพิเศษ จนทำให้ท่อปัสสาวะซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณช่องคลอดได้รับการกระทบกระเทือนไปด้วย อาจทำให้ต้องงดกิจกรรมทางเพศในระยะเวลาหนึ่งจนกว่าร่างกายจะฟื้นตัวและคลายจากอาการอักเสบ รวมถึงลดการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดด้วย
6.ต่อมลูกหมากโต (BPH) ต่อมลูกหมากโตเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ช่วย ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของต่อมลูกหมาก แล้วไปปิดกั้นการไหลของปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะติดขัด ซึ่งจะต้องรับประทานยาที่ช่วยลดขนาดต่อมลูกหมาก จึงจะทำให้อาการดีขึ้นได้
7.คนที่เป็นโรคหัวใจหรือรับประทานยาขับปัสสาวะ หรือยาที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เช่น ไดออเรล ทลิโทน ไมโครไซต์ บูเม็กซ์ ลาซิกซ์ อินสปรา อัลเคโคน ไตรีเนียม ฯลฯ
8.คนอายุมากมักจะมีปัญหาการปัสสาวะบ่อยๆหรือไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ มากกว่าคนอายุน้อย
9.คนที่มีโรคประจำตัวและต้องรับประทานยาตลอดเวลา หรืออยู่ในระหว่างการรักษาโรค รับยา ทำคีโม หรือฉีดสีเพื่อการทำ CT scan เข้าไปในร่างกาย ไตจึงพยายามขับสารเคมีเหล่านั้นออกมา
10.คนที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือ ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน ได้แก่
ชา กาแฟ โซดา น้ำอัดลม ช็อกโกแลตต่างๆ เครื่องดื่มชูกำลัง
เมื่อใดที่คุณควรไปพบแพทย์
การปัสสาวะบ่อยไม่ใช่เรื่องร้ายแรงที่ควรไปพบแพทย์ในความรู้สึกของใครหลายคน เพราะมักจะหายไปเองได้ แต่คุณจะเริ่มรู้สึกว่ามันส่งผลกระทบต่อชีวิต ถ้าหากว่าคุณเริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติต่อไปนี้
– มีไข้และปวดหลังช่วงล่าง
– ปัสสาวะมีเลือดปน
– ปัสสาวะเป็นสีขาวขุ่น
– ปัสสาวะเปลี่ยนสี มีสีเข้ม มีกลิ่นผิดปกติ
🥰เคล็ดลับการรักษาทางเดินปัสสาวะ
1.กินอาหารที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแลคโตบาซิลลัส ซึ่งพบได้ในโยเกิร์ตและ kefir
2.ใช้สบู่ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศทุกวันและเลือกใช้สบู่อ่อนๆ สำหรับผิวที่บอบบางแพ้ง่าย
3.สวมกางเกงชั้นในแห้งสนิทและค่อนข้างหลวมไม่ก่อให้เกิดการเสียดสีมากจนเกินไป
4.หลีกเลี่ยงกางเกงยีนส์รัดรูป และเลคกิ้งรัดรูป
5.เวลาเข้านอนไม่สวมชุดชั้นในเพื่อให้บริเวณส่วนล่างของร่างกายได้ผ่อนคลายเต็มที่
6.ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว หรือ 2.5 ลิตร 12 ออนซ์ ขึ้นไปต่อวัน
7.หลีกเลี่ยงการบริโภคแอลกอฮอล์ โซดา น้ำอัดลม หรือคาเฟอีนในช่วงที่มีอาการอักเสบบริเวณ
กระเพาะปัสสาวะ
8.การสูบบุหรี่หรือรับสารเสพย์ติดบางประเภทเป็นสาเหตุให้เกิดการระคายเคืองบริเวณกระเพาะปัสสาวะได้
สนใจสินค้าสุขภาพที่คุณหมอพูดถึง สามารถสั่งซื้อได้ทาง Inbox ผ่านเพจ
หรือ Line@ ของคลีนิคค่า
✅LINE : https://lin.ee/piE9kvf
——————————-
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
📌 เพจ : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 Youtube : https://youtube.com/c/อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 IG : dr.cant.help