ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวันดีจริงหรือ?

เราได้ยินกันมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าจะเป็นในโฆษณา จากคุณพ่อคุณแม่ ตั้งแต่ครูอนุบาลยันอาจารย์มหาฯ ลัย ต่างก็บอกให้เราดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วต่อวัน แล้วเราก็เชื่อและทำตามกันมาตลอด ว่าแต่ว่า 8 แก้วมันดีจริงหรือ? วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ

ทำไมต้องดื่มน้ำให้มาก?  มาดูความเชื่อผิดๆ ที่คนมักจะนำมาตอบคำถามนี้กันค่ะ

ร่างกายประกอบด้วยน้ำ 60%
ในความเป็นจริงในร่างกายของมีน้ำอยู่เกือบจะ 0% ส่วน 60% ที่เราคิดว่าเป็นน้ำนั้นคือของเหลวที่เป็นแร่ธาตุและสารละลาย เช่น เลือด ปัสสาวะซึ่งไม่ใช่น้ำเปล่าๆ แต่เป็นของเหลวที่มีส่วนประกอบอย่างแคลเซียม โพแทสเซียม โซเดียมและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมาก

ร่างกายของเราไม่เคยรู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะดื่มน้ำ
ร่างกายของมนุษย์เรามีฟังก์ชั่นการปรับสมดุลอยู่ตลอดเวลาค่ะ เช่น อาการสั่นเพื่อสร้างความร้อนเมื่อรู้สึกหนาว ความรู้สึกหิวเมื่อร่างกายต้องการอาหาร การชักมือออกทักทีมือสัมผัสความหม้อน้ำร้อน เรามีการตอบสนองลักษณะนี้อยู่กว่า 52 แบบ เป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เช่นเดียวกับเวลาที่ร่างกายขาดน้ำ สมองจะสั่งการให้เรารู้สึกกระหายน้ำเองค่ะ

น้ำช่วยกำจัดไขมัน
คุณคงเคยได้ยินอยู่เรื่อยๆ ว่าคนเราสามารถลดความอ้วนได้ด้วยการดื่มน้ำมากๆ โดยเฉพาะน้ำเย็น เปล่าเลยค่ะ ไม่มีการทดลองหรือพิสูจน์ใดๆ ว่าการดื่มน้ำช่วยลดน้ำหนักได้ ไขมันไม่ใช่อะไรที่จะละลายได้ด้วยน้ำ ถ้าเราเทน้ำกับน้ำมันผสมกันอย่างที่เคยทดลองสมัยประถม อย่างที่เรารู้ค่ะ น้ำกับน้ำมันจะแยกชั้นกัน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่น้ำจะสามารถพัดพาไขมันออกจากร่างกายได้ เพียงแต่ว่าการดื่มน้ำมีประโยชน์กับคนออกกำลังเพื่อลดน้ำหนักเท่านั้นเอง รวมถึงอาจจะช่วยให้เรารู้สึกหนักท้องลดความหิวได้บ้าง

น้ำช่วยขจัดสารพิษ
เช่นเดียวกับไขมันค่ะ สารพิษในร่างกายละลายได้ด้วยไขมัน ไม่ใช่ด้วยน้ำ สารพิษจะรวมอยู่กับไขมันในร่างกาย น้ำละลายไขมันไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าน้ำจะละลายสารพิษและพัดพามันออกร่างกายได้เลยค่ะ

น้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
ผิวของเราแห้งเสียเพราะขาดวิตามิน A และวิตามิน A เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันค่ะ ผิวของเราจะชุ่มชื้นดูอ่อนเยาว์ ก็เพราะสารประเภทไขมันค่ะ ไม่ใช่น้ำ

การดื่มน้ำมากเกินไปมีผลเสียหลายอย่าง อย่างหนึ่งคือภาวะโซเดียมต่ำ (Hyponatremia) และโพแทสเซียมต่ำ (Hypokalemia) ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากเซลล์ในร่างกายบวมและเสียสมดุล เพราะมีน้ำเข้าไปอยู่แทนที่แร่ธาตุในเซลล์มาก เกลือแร่และแร่ธาตุที่เหลือจะถูกน้ำพัดพาออกจากร่างกายหมด รวมถึงเซลล์สมอง ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อาเจียน เกร็ง เป็นตะคริว ไม่รู้สึกตัวหรือชักจนเสียชีวิตได้ 

ในความเป็นจริง อาหารที่เราทานก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว เช่น ในกะหล่ำปลีและแตงกวามีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่กว่า 90% และร่างกายของคนเราแต่ละคนต้องการน้ำไม่เท่ากัน คนที่อาศัยอยู่ในเมืองร้อนต้องการน้ำมากกว่าคนที่อยู่ในเมืองหนาว คนออกกำลังย่อมต้องการน้ำมากกว่าเพื่อน้ำไปทดแทนน้ำที่เสียไปกันเหงื่อ ดังนั้น จงเชื่อใจร่างกายตัวเองค่ะ ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนเจ้าของของมันเองเมื่อมันต้องการความช่วยเหลือ เมื่อเรารู้สึกกระหาย เมื่อนั้นแหละค่ะ คือเวลาที่ต้องหาน้ำดื่มได้แล้ว

สรุปแล้วการดื่มน้ำเป็นเรื่องที่ดีค่ะ โดยทั่วไป 8 แก้วต่อวันจริงๆแล้วถือว่ายังไม่มากเกินไป เพียงแต่เป็นตัวเลขที่ไม่มีงานวิจัยที่แน่ชัด จากงานวิจัยของ The Institute of Medicine (IOM)  ผู้ชายควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 3.7ลิตร ส่วนผู้หญิงวันละ2.7ลิตร ซึ่งตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่ได้รวมน้ำที่เราบริโภคผ่านทางอาหารเช่นผักผลไม้ไปแล้ว แต่อย่างไรก็ดีอัตราการดื่มน้ำก็ยังขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนักตัว กิจกรรมที่ทำรวมถึงอุณหภูมิในขณะนั้นๆอีกด้วยค่ะ

การดื่มน้ำเยอะๆมีข้อควรระวังก็คือ ต้องค่อยๆทยอยดื่มนะคะ เพราะร่างกายเราไม่สามารถขับน้ำออกได้เกิน 1ลิตรในเวลา1ชม. ดังนั้นอย่าคิดว่ากินน้ำเยอะๆจะไม่มีโทษ เราต้องฟังเสียงของร่างกายด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ

ติดต่อเรา