ทำไมน้ำหนักไม่ลดสักที? 10 ข้อควรระวังของคนลดน้ำหนัก คุณออกกำลังกายตามแผน กินอา…

ทำไมน้ำหนักไม่ลดสักที?
10 ข้อควรระวังของคนลดน้ำหนัก

คุณออกกำลังกายตามแผน กินอาหารตามเป้าได้ทุกวัน แต่จนแล้วจนรอดทำไมน้ำหนักถึงไม่ลดสักทีนะ? ลองเช็คดูค่ะ ว่าคุณกำลังมีพฤติกรรมแบบ 10 ข้อนี้อยู่ใช่หรือไม่ นี่อาจเป็นสาเหตุที่น้ำหนักคุณไม่ยอมลดสักทีก็ได้ค่ะ
.
1. ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้ ลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัมใน 1 เดือน หรือ ลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์ เป็นคำค้นหายอดฮิตในกูเกิล และนั่นคือเป้าหมายที่เสียสุขภาพและเป็นไปไม่ได้ ความเร็วในการการลดน้ำหนักที่ดีจะอยู่ที่ 0.5 – 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ การตั้งเป้าหมายแบบนั้นจะทำให้คุณท้อแท้ทุกครั้งที่ขึ้นชั่งน้ำหนักแล้วยังเห็นเข็มอยู่ที่เดิมทั้งที่มันเพิ่งจะเป็นวันที่สามของการลดน้ำหนัก การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และทำได้จริง จะช่วยให้คุณมีกำลังใจมากขึ้นเมื่อถึงเวลาก้าวขึ้นบนตราชั่งในวันที่น้ำหนักของคุณควรจะลด แล้วคุณก็เห็นน้ำหนักของคุณลดจริงๆ
.
2. ยึดติดกับตัวเลขบนตาชั่ง น้ำหนักของเรานั้นขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา ถ้าคุณชั่งน้ำหนักตอนเช้า กลางวัน เย็น เป็นไปได้ที่คุณจะได้ตัวเลขที่แตกต่างกันตลอดทั้งวัน เพราะน้ำหนักของเราเป็นผลรวมของ ไขมัน กล้ามเนื้อ น้ำและอื่นๆ น้ำหนักที่เพิ่มหรือลดไปอาจเป็นแค่มวลน้ำในร่างกาย เป้าหมายของการลดน้ำหนักคือการลดไขมัน แม้ไขมันของคุณลดลงแล้วแต่น้ำหนักคุณอาจจะยังเท่าเดิม เพราะมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นอย่ากังวลกับตัวเลขเกินไปเลยค่ะ สังเกตจากความคล่องแคล่วของร่างกาย ความรู้สึกสดชื่นจากสุขภาพที่ดีขึ้น เสื้อผ้าที่หลวมขึ้น รอบเอวที่ลดลงจะดีกว่าค่ะ
.
3. ไม่มีช่วงพักให้ร่างกาย เมื่อคุณลดน้ำหนักไปได้สักพัก คุณจะเห็นน้ำหนักของตัวเองลดลงแล้ว รูปร่างดีขึ้น นั่นก็เป็นผลมาจากวินัยที่ทำกิจวัตรซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และเพื่อให้ไปถึงฝั่งฝัน คุณควรมีรางวัลและเวลาพักให้กับร่างกายตัวเองบ้าง เพื่อไม่ให้เบื่อ ผ่อนคลาย และยิ่งกว่านั้นก็อาจทำให้แผนลดน้ำหนักของคุณสำเร็จง่ายขึ้นด้วย คุณอาจจะมีชีทเดย์ (cheat day) ที่กินตามใจ มีช่วงพักไม่ต้องออกกำลังกายและเอาแต่นอนบ้าง
.
4. ดื่มน้ำน้อยเกินไป การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำไปจำนวนมาก และหลายคนสับสนระหว่างความกระหายและความหิว การไม่ดื่มน้ำเมื่อออกกำลังกายจึงมีโอกาสจะทำให้คุณหิวได้มากกว่า ดังนั้น ครั้งหน้าถ้าคุณหิว ลองดื่มน้ำดูสักหน่อยแล้วถามตัวเองอีกครั้งว่ายังหิวอยู่ไหม
.
5. ลืมนับแคลอรี่ในเครื่องดื่ม หลายครั้งที่เราหลอกตัวเองว่าเราแค่ดื่มน้ำ ไม่ได้กินอาหาร แคลอรี่จากของที่ดื่มไปคงไม่เท่าไหร่ แต่อย่าลืมนะคะว่าถาไม่ใช่น้ำเปล่า เครื่องดื่มเองก็มีแคลอรี่เหมือนกัน ทั้งน้ำอัดลม กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้แต่น้ำผลไม้ปั่นที่เราคิดว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่ถ้าแม่ค้าใส่น้ำเชื่อมลงไปด้วย สมู้ทตี้แก้วนั้นก็อาจมีแคลอรี่สูงถึง 300-500 แคลอรี่เลยทีเดียว
.
6. ไม่เคยยกเวท ถ้าคุณจะมีเป้าหมายเพียงอยากจะเผาผลาญไขมันให้หมดไปจากตัว และวางแผนให้ตารางออกกำลังกายมีแต่โปรแกรมคาดิโอ นานๆ ครั้งคุณก็ควรจะยกน้ำหนักหรือออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งบ้าง เพื่อคงสภาพกล้ามเนื้อซึ่งจะช่วยเผาผลาญไขมัน การออกกำลังแบบคาดิโอจะช่วยเผาผลาญเพียงแค่ตอนที่คุณเล่นคาดิโอเท่านั้น แต่การออกกำลังแบบเวทเทรนนิ่ง การเผาผลาญจะอยู่ต่อไปสักพักแม้จะหยุดออกกำลังกายแล้ว
.
7. มีความเครียดมากไป ถ้าคุณกำลังเครียดเกินไป รู้สึกท้อแท้หรือกังวลกับแผนลดน้ำหนัก ให้หาทางหยุดมันทันทีค่ะ เพราะความเครียดเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของพพุงน้อยๆ รอบเอว เวลาเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลที่จะกระตุ้นให้เราอยากกินจุกจิกไม่หยุด โดยเฉพาะของหวานๆ หรือใช้ตัวช่วย วิตามิน C ใช้เยอะในการมาสร้างฮอร์โมนที่คอยช่วยจัดการความเครียด ช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้เช่นกันนะคะ
.
8. นอนหลับไม่เพียงพอ การนอนหลับไม่พอเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้นด้วยค่ะ ในภาวะที่ร่างกายนอนไม่พอ ร่างกายจะเข้าสู่โหมดเอาตัวรอด คือ ร่างกายจะเผาผลาญน้อยลงเพื่อรักษาพลังงาน เราจะหิวง่ายขึ้น กินจุกจิกมากขึ้น เพราะร่างกายต้องการพลังงานมากขึ้น ผลคือ น้ำหนักตัวคุณจะไม่ยอมลดสักที หากมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับอาจจะหาเมลาโทนินมากินก่อนนอนก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี เพราะจะทำให้การนอนเราดีขึ้น ถ้าเมลาโทนินมีเยอะจะทำให้ฮอร์โมนตัวอื่นๆ ออกมาซ่อมแซมร่างกาย ซึ่งฮอร์โมนต่างๆ หลายตัวมีผลต่อการเผาผลาญของร่างกาย เพราะฉะนั้นถ้านอนดึกหรือนอนไม่พอการเผาผลาญไม่ดีแน่นอน พอการเผาผลาญเราไม่ดีเราก็ลดน้ำหนักได้ยาก
.
9. อดอาหาร หลายคนลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารเป็นหลัก ต้องบอกเลยว่าเวลาที่เราอดอาหารหรือลดอาหารลงมา สารอาหารที่ได้ก็น้อยลงไปด้วย พอสารอาหารได้น้อยลงจึงทำให้สารอาหารที่ไปสร้างฮอร์โมนต่างๆ ลดลง เพราะฉะนั้นฮอร์โมนต่างๆ จึงแย่ลงด้วย สังเกตจากที่หลายๆ คนลดน้ำหนักลงมาได้จุดหนึ่ง แล้วน้ำหนักก็จะตื้ออยู่ในระดับนั้นไม่ลดลงอีก เพราะว่าการเผาผลาญน้อยลง พอเรากินน้อยสารอาหารที่จะไปสร้างฮอร์โมนต่างๆ จึงน้อยลง พอมีน้อยลงฮอร์โมนที่จะไปใช้ในการเผาผลาญก็จะลดลงตามไปด้วย เพราะฉะนั้นเวลาลดน้ำหนักควรกินอาหารที่ดี กินวิตามินแร่ธาตุต่างๆ ให้ครบ ให้พอ พอกินอาหารที่ดีและมีสารอาหารที่ดี มีแคลลอรี่ที่เหมาะสม กินอาหารอย่างมีวินัยน้ำหนักก็จะลดลงไปได้นั่นเอง
.
10. ลืมเช็คฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนในการเผาผลาญ เป็นตัวหลักที่ช่วยให้เราเผาผลาญได้ดี เพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็คไทรอยด์ ว่าไทรอยด์เราพร่องหรือไทรอยด์เราต่ำหรือยัง? หากรู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์อาจเสริมด้วย Armour Thyroid ซึ่งเป็นอาหารเสริมไทรอยด์ตามธรรมชาติ เพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญ น้ำหนักก็สามารถลดลงต่อได้ดียิ่งขึ้น
.
หากคุณมีพฤติกรรมดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว คุณลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองใหม่ หรือใช้ตัวช่วยในการเผาผลาญของร่างกายได้ ซึ่งการลดน้ำหนักนอกจากจะช่วยเรื่องสรีระร่างกาย ยังช่วยให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง แล้วเมื่อเราพอใจกับสรีระร่างกายของเราแล้วก็ยังช่วยให้สุขภาพจิตใจของเราดีอีกได้ด้วย ซึ่งการลดน้ำหนักที่ดี คือ การสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับร่างกาย อย่ากังวลเรื่องตัวเลขบนตาชั่งมากจนเกินไป ควรหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพในระยะยาวกันดีกว่านะคะ : )

ติดต่อเรา