‘น้ำมันปลา’ สารอาหารสำคัญที่ร่างกายไม่ควรขาด! ‘น้ำมันปลา’ เป็นแหล่งไขมันโอเมก้า…

‘น้ำมันปลา’ สารอาหารสำคัญที่ร่างกายไม่ควรขาด!

‘น้ำมันปลา’ เป็นแหล่งไขมันโอเมก้า 3 ที่เข้มข้น เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร หรืออาหารเสริมที่มีโอเมก้า 3 โดยจะมีสารอาหารที่สำคัญ คือ DHA (Docosahexaenoic Acid) และ EPA (Eicosapentaenoic Acid) ซึ่ง DHA จะช่วยเรื่องสมอง ส่วน EPA จะช่วยเรื่องหัวใจ หลอดเลือด นอกจากนี้น้ำมันปลายังมีประโยชน์ที่ดีมากมายต่อสุขภาพ วันนี้เรามารู้จักประโชยน์ของน้ำมันปลาสารอาหารสำคัญที่ร่างกายไม่ควรขาดกันค่ะ
.
1. ต้านการอักเสบ น้ำมันปลามีคุณสมบัติต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ซึ่งการอักเสบเป็นสาเหตุของโรคส่วนใหญ่ มักใช้รักษาอาการต่างๆ ตั้งแต่ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจไปจนถึงภาวะซึมเศร้า อาการปวดข้อ

2. ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าน้ำมันปลาในรูปแบบอาหารเสริมหรือจากอาหารสามารถช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ได้ ซึ่งเป็นไขมันอันตรายชนิดหนึ่งที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และยังช่วยปรับสมดุลของคอเลสเตอรอล ช่วยลดไขมันเลว LDL ได้ด้วย

3. ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ น้ำมันปลามีความเชื่อมโยงกับโรคอัลไซเมอร์ โดยกรดไขมันโอเมก้า 3 มีความสำคัญของการทำงานของสมอง ไม่เพียงที่จะช่วยชะลอการเสื่อมของสมอง แต่ยังช่วยป้องกันการฝ่อของสมองในผู้สูงอายุได้อีกด้วย งานวิจัยพบว่า ผู้ที่กินน้ำมันปลามีความเสื่อมของสมองและการหดตัวสมองน้อยกว่าผู้ที่ไม่กินน้ำมันปลา

4. บรรเทาอาการปวดข้อ น้ำมันปลาจะช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ โดยเฉพาะการปวดข้อ ข้อตึง บวม และช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบได้ เพราะน้ำมันปลามีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ

5. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง การศึกษาพบว่า น้ำมันปลาช่วยป้องกันและและยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ทั้งมะเร็งลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมาก เต้านม และยังช่วยทำให้ยารักษามะเร็งมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไปยับยั้งการพัฒนาเนื้องอกในเต้านม ในผู้หญิงที่กินน้ำมันปลาตั้งแต่วัยผู้ใหญ่ตอนต้นจนถึงวัยกลางคนจะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ด้วย

6. ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน น้ำมันปลาช่วยควบคุมการดื้อต่ออินซูลิน การอักเสบ และช่วยจัดการระดับน้ำตาลในเลือด และยังช่วยลดอาการของโรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับเบาหวาน เช่น โรคไตได้

7. ต้านอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวล กรดไขมันโอเมก้า 3 มีความสำคัญต่อการพัฒนาและการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งการขาดโอเมก้า 3 จะนำไปสู่ความผิดปกติของอารมณ์ ซึ่งน้ำมันเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาภาวะซึมเศร้าและปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอารมณ์

8. ส่งเสริมสุขภาพการเจริญพันธุ์และพัฒนาการของทารก ในผู้ชายช่วยให้อสุจิแข็งแรง ในผู้หญิงจะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ช่วยป้องกันภาวะการมีบุตรยาก สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์การกินโอเมก้า 3 เป็นสิ่งสำคัญ แต่ให้กิน DHA เพียงอย่างเดียวเท่านั้น (ห้ามมี EPA) ซึ่ง DHA จะช่วยดูแลและบำรุงเรื่องสมอง ดวงตา ระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกันของทารก (EPA ในคุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามกิน เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการแท้งลูกได้) และกรดไขมันโอเมก้า 3 ยังช่วยลดโอกาสในการคลอดก่อนกำหนดได้ด้วย

9. ดูแลผิวหนังและเส้นผม มีหลักฐานชี้ว่าน้ำมันปลาป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้น เรียบเนียน ยืดหยุ่น ช่วยลดการอักเสบของผิวที่เกิดจากแสงแดดและบรรเทาอาการผิวไหม้จากแสงแดดได้ ซึ่งการขาด EPA และ DHA จะทำให้มีปัญหาสภาพผิว เช่น เกิดรังแค ผมบางลง กลาก โรคสะเก็ดเงิน

10. ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร น้ำมันปลามีประโยชน์ในการปรับปรุงและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยลดความเจ็บปวดที่เกิดจากแผลในกระเพาะอาหารลงได้
.
กรดไขมันโอเมก้า 3 มีความจำเป็นต่อสุขภาพในหลายๆ ด้าน แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง เราจึงต้องได้รับจากอาหาร แต่หากรับจากอาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อระบบในร่างกาย การเสริมน้ำมันปลาที่มีคุณภาพก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี อย่างไรก็ตามลองหาแหล่งอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 มาทานกันนะคะ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของเรากันค่ะ : )

ติดต่อเรา