รู้หรือไม่ เด็กๆเป็นวัยที่ขาดวิตามินK2 มากที่สุด! วันนี้มีความชัดเจนว่าการได้รั…

รู้หรือไม่ เด็กๆเป็นวัยที่ขาดวิตามินK2 มากที่สุด!

วันนี้มีความชัดเจนว่าการได้รับวิตามิน K2 อย่างเพียงพอนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกระดูกที่แข็งแรงและช่วยลดความเสี่ยงของลิ่มเลือดอุดตัน
งานวิจัยพบว่าพวกเราเกือบทุกคนมีโอกาสมากที่จะขาดวิตามิน K2 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน อุตสาหกรรมอาหารที่สมัยใหม่ ​​ทำให้วิตามิน K2นั้นมีน้อยลง ในอาหารทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน
ถึงแม้วิตามินK สามารถหาทานได้จากผักใบเขียวชนิดต่างๆ เช่นผักโขม คะน้า บล๊อคโคลี่ และผลไม้ตระกูลเบอรี่
แต่วิตามินK2 คล้ายกับวิตามินD ที่ร่างกายเราสามารถสร้างเองได้
วิตามินK2 ถูกสร้างจากวิตามินKและ แบคทีเรียในระบบย่อยอาหารของเรา แต่การทานยา Antibiotics ทำให้แบคทีเรียชนืดต่างๆที่อยู่ในลำไส้ของเราถูกทำลายไปมาก ดังนั้นการทานวิตามินK2จากอาหาร จึงเป็นไปได้มากกกว่าที่จะได้รับจากการสร้างของร่างกาย

วิตามินK2 นอกจากใช้ร่วมกับวิตามินD3สำหรับวัยผู้ใหญ่ที่เริ่มมีปัญหาเรื่องกระดูกบางกระดูกพรุนแล้ว อีกกลุ่มบุคคลหนึ่งที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินK2อย่างเพียงพอ ก็คือเด็กในวัยกำลังเจริญเติบโต
กระดูกของพวกเราจะถูกพัฒนามากที่สุดในช่วงที่เรากำลังเจริญเติบโต หากเราได้รับวิตามินK2 ไม่เพียงพอ ก็จะทำให้แคลเซียมไม่สามารถเข้าไปเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและเติบโตได้
มีงานวิจัยค้นพบว่าในเด็กและในวัยรุ่นมีความต้องการวิตามินK2 มากกว่าวัยผู้ใหญ่ด้วยเหตุผลข้างต้น

โดยสรุปบทบาทของวิตามินKมีดังนี้
-ช่วยเรื่องการแข็งตัวของเลือด
-ป้องกันแคลเซียมเกาะในหลอดเลือด
-ช่วยในระบบการซ่อมแซมของ อวัยวะภายในร่างกายอย่างตับ และไต ระบบประสาท หลอดเลือดและประสาทตา
-ช่วยปกป้องกระดูกของผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

-ช่องป้องกันโรคกระดูกพรุน ถ้าร่างกายขาดK2 แคลเซียมจะไม่สามารถเก็บสะสมที่กระดูกได้ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุน
-มีหลายงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า วิตามินK ช่วยในเรื่องความจำของผู้สูงอายุ
-ช่วยในเรื่องความดันโลหิตสูงและหลอดเลือด
-หากร่างกายขาดวิตามินK มีโอกาสให้เกิดแคลเซียมเกาะในผนังหลอดเลือด ซึ่งมีผลต่อไตและสมอง
-ช่วยปกป้องดูแลกระดูก ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกในเด็กและวัยรุ่น ขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันการแตกหักในคนสูงอายุ

อาหารที่มีวิตามิน K2 สูงคือพวกนัตโตะหรือถั่วเน่าญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะหาทานได้ยากในประเทศไทย จึงสามารถทานในรูปแบบของอาหารเสริมได้ คุณหมอจึงแนะนำให้ทานในฟอร์มที่เป็น MK7 วันละประมาณ 100-120 mcg
โดยปกติวิตามิน K2 มีลักษณะเป็น capsule ที่เด็กทานยาก คุณหมอจึงเเนะนำให้เด็กๆทานวิตามิน K2 ในรูปเเบบเม็ดอม ทีมีรสชาติเหมาะสมสำหรับเด็ก สามารถเคี้ยวและกลืนได้เลย สำหรับเด็กๆ คุณหมอเเนะนำให้ทานครั้งละ​ 1เม็ด​ พร้อม​อาหาร​มื้อใดก็ได้ จันทร์ พุธ ศุกร์

เหมาะสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป (หรือเด็กที่สามารถเคี้ยวกลืนอาหารได้แล้ว)

.
สนใจสินค้าสุขภาพที่คุณหมอพูดถึง สามารถสั่งซื้อได้ทาง
Line@ของคลีนิคค่า
✅LINE : https://lin.ee/piE9kvf
——————————-
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
📌 เพจ : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 Youtube : https://youtube.com/c/อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 IG : dr.cant.help

ติดต่อเรา