วุ้นในตาเสื่อม ปลายทางของคนจ้องจอนานๆ . ในปัจจุบันมีคนเป็นโรควุ้นในตาเสื่อมก่อน…

วุ้นในตาเสื่อม ปลายทางของคนจ้องจอนานๆ
.
ในปัจจุบันมีคนเป็นโรควุ้นในตาเสื่อมก่อนวัยกันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ผู้สูงวัยหรือผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากพฤติกรรมการจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือจอมือถือที่มากเกินไปนั่นเองค่ะ
.
เมื่อวุ้นในลูกตาเกิดการเสื่อม มันจะกลายเป็นน้ำบางส่วน และหากเกิดการเสื่อมมากๆ วุ้นในตาก็จะจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ส่วนที่ใสๆ เกิดเป็นฝ้าหรือเป็นจุดดำ จนส่งผลกระทบต่อความสามารถในการมองเห็น หรืออาจสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร!
.
สำหรับหลายๆ คน การทำงานที่ต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์นานๆ ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น เราจึงควรปกป้องดวงตาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทานสารอาหารที่ช่วยบำรุงดวงตา ก็จะช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตาและลดโอกาสการเกิดโรคตาในอนาคตได้
.
✅อาการของผู้มีภาวะวุ้นในตาเสื่อม
– เห็นจุดหรือเส้นดำคล้ายหยากไย่ลอยไปมาในตา
– เห็นเงาดำจุดใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
– เห็นแสงวูบวาบคล้ายแสงแฟลชในตา
– เห็นเงาคล้ายม่านบังตาบางส่วน
– ความสามารถในการมองเห็นลดลง
.
✅ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะวุ้นในตาเสื่อม
1⃣ การจ้องหน้าจอบ่อยๆ หรือจ้องจอเป็นระยะเวลานานๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากไม่ป้องกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอ ซึ่งเป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดจอประสาทตาเสื่อมและภาวะวุ้นในตาเสื่อม
.
2⃣ อายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ร่างกายและดวงตาก็จะเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติ
.
3⃣ คนที่มีสายตาสั้นมาก คือตั้งแต่ 400 ขึ้นไป จะเสี่ยงเกิดภาวะวุ้นในตาเสื่อมเร็วกว่าคนสายตาปกติถึง 2 เท่าตัว เนื่องจากโครงสร้างดวงตาอ่อนแอกว่าคนสายตาปกติ
.
4⃣ ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เนื่องจากค่าน้ำตาลในเลือดที่สูง อาจทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดบริเวณจอตา จนดวงตาเกิดความเสียหายหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า “เบาหวานขึ้นตา”
.
5⃣ ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดดวงตา เช่น การผ่าตัดต้อกระจก ซึ่งอาจทำให้วุ้นในตาหลุดลอก จนเกิดเป็นภาวะวุ้นในตาเสื่อมได้
.
6⃣ กินอาหารที่ไม่หลากหลายและไม่มีประโยชน์ ส่งผลให้ร่างกายได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นไม่เพียงพอในการบำรุงรักษาดวงตา
.
เมื่อรู้แล้วว่าภาวะวุ้นในตาเสื่อมเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ส่งผลเสียต่อความสามารถในการมองเห็น คงจะดีที่สุดหากเราหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดูแลดวงตากันให้มากขึ้น เพื่อชะลอความเสื่อมและลดความเสี่ยงของภาวะวุ้นในตาก่อนวัยได้ ด้วยแนวทางง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
.
1⃣ เมื่อต้องทำงานหน้าจอนานๆ ก็ควรปรับแสงหน้าจอให้สว่างพอดีและสบายตา ไม่จ้าหรือมืดจนเกินไป หรือใช้แผ่นกรองแสงบริเวณหน้าจอหรือสวมแว่นตากรองแสงสีฟ้า
.
2⃣ ไม่ใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ควรพักสายตาเป็นระยะๆ เช่น ใช้กฎ 20-20-20 คือ พักสายตาทุก 20 นาที โดยมองออกไปไกล 20 เมตรเป็นเวลา 20 วินาที
.
3⃣ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม ภาวะวุ้นในตาเสื่อม และโรคตาอื่นๆ
.
4⃣ กินอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาและป้องกันภาวะสายตาเสื่อม อุดมไปด้วยสารลูทีน เบต้าแคโรทีน แอสต้าแซนทีน วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว ไข่ แครอท อะโวคาโด อัลมอนด์ และปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาแซลมอน แมกเคอเรล ซาร์ดีน
.
หากใครที่เข้าข่ายมีอาการ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ และเข้ารับการตรวจตากับแพทย์ทันทีนะคะ เพราะหากตรวจพบเร็ว ก็จะสามารถรักษาได้ทันและเพิ่มโอกาสการหายจากโรคได้ค่ะ ส่วนใครที่ชีวิตจำเป็นต้องใช้งานหน้าจออยู่บ่อยๆ ก็อย่าลืมปกป้องดวงตากันด้วยนะคะ

ติดต่อเรา