อาหาร 7 อย่าง ที่คนเป็นโรคไตทานได้ 1. ผัก คนเป็นโรคไตแนะนำให้ทานกึ่งมังสวิรัติ…

อาหาร 7 อย่าง ที่คนเป็นโรคไตทานได้

1. ผัก
คนเป็นโรคไตแนะนำให้ทานกึ่งมังสวิรัติหรือทานมังสวิรัติได้เลย ผักมีทั้งวิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ และมีไฟเบอร์ที่เป็นกากใยอาหาร ซึ่งกากใยอาหารช่วยลดการอักเสบของร่างกาย และยังช่วยดูดซับของเสียไว้ในตัวของเขาเอง โดยไตทำหน้าที่ในการขับของเสียออกยิ่งถ้าในร่างกายของเรามีสารพิษเป็นจำนวนมากไตก็จะทำงานหนัก ไฟเบอร์จึงช่วยลดภาระของไตในส่วนนี้ได้ ยิ่งถ้าทานไฟเบอร์ร่วมกับโปรไบโอติกส์ได้จะยิ่งดี เพราะโปรไบโอติกส์ก็คือจุลินทรีย์ที่ดี และเป็นจุลินทรีย์ที่กินไฟเบอร์เป็นอาหาร โดยจุลินทรีย์เหล่านี้มีอยู่ที่ทางเดินอาหารของเรา ยิ่งถ้าเรากินไฟเบอร์เยอะๆ ก็จะยิ่งทำให้จุลินทรีย์ที่ดีในทางเดินอาหารของเราเติบโตและมีจำนวนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้จะช่วยกำจัดของเสียที่อยู่ในทางเดินอาหารออกไป ถ้าเกิดเราไม่มีจุลินทรีย์ดีๆ เหล่านี้ของเสียก็จะเข้าไปในกระแสเลือด แล้วไปกรองออกที่ไต จึงเป็นการเพิ่มภาระการทำงานของไต
การเลือกใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติกส์

– เลือกดูตั้งแต่แคปซูล
โดยต้องเป็นแคปซูลที่ทนกรดได้ เพราะจุลินทรีย์เหล่านี้อาศัยอยู่ในลำไส้ ถ้าเกิดเป็นแคปซูลที่ไม่ทนกรด เมื่อเราทานลงไปแล้วไปอยู่ที่กระเพาะตัวแคปซูลก็จะแตก ทำให้จุลินรีย์ดีๆ เหล่านั้นเมื่ออยู่ในกระเพาะอาหารก็จะตายหมด เพราะว่าโดนกรดในกระเพาะย่อยไปหมด

– เลือกดูชนิดที่เป็น Strain
ควรเลือกหลากชนิด เพราะว่าร่างกายของเราต้องการหลายสายพันธุ์ ในการช่วยการทำงาน เวลาดูก็ให้ดูว่ามีกี่สายพันธุ์ และมีปริมาณเท่าไหร่ อย่างน้อยควรทานวันละประมาณ 10 พันล้านขึ้นไป

2.ผลไม้
แต่ทานได้ในปริมาณจำกัด ควรเลือกทานผลไม้หวานน้อย เพราะว่าในผลไม้หวานจะมีฟรุกโตสสูง ซึ่งฟรุกโตสทำให้ยูริกสูงและเมื่อยูริกสูงทำให้ไตวายได้ สิ่งที่มีประโยชน์ในผลไม้คือไฟเบอร์ ที่มีวิตามิน มีแร่ธาตุต่างๆ ไม่แนะนำให้ทานน้ำผลไม้ เพราะว่าในน้ำผลไม้ไม่ทำให้เราได้ไฟเบอร์นั่นเอง

3.ธัญพืชหรือถั่วต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ถั่วอัลมอนด์ ถั่วพิสตาชิโอ ถั่วลิสงต่างๆ หรือจะทานพวกเผือก มันต่างๆ ถึงแม้ในธัญพืชจะมีฟอสเฟตสูง แต่ฟอสเฟตที่มาจากพืชร่างกายเราดูดซึมได้ไม่ดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ฟอสเฟตสูง

4.แป้งไม่ขัดขาว
ซึ่งแป้งขัดขาวเราไม่แนะนำ เพราะว่าไม่ใช่อาหารสุขภาพ เพราะฉะนั้นแป้งหรือข้าวที่ไม่ขัดขาวจึงสามารถทานได้

5.ไข่
หลายคนจะกินแต่ไข่ขาวและกินในปริมาณเยอะๆ ซึ่งไม่แนะนำเลย แนะนำควรทานไข่ทั้งฟอง ทั้งไข่แดงและไข่ขาว ในปริมาณไม่เกิน 2 ฟองต่อวัน ในคนไข้โรคไตบางคนที่มีเรื่องโปรตีนต่ำ มีอัลบูมินต่ำ บางคนก็ไปกินไข่ขาวในปริมาณเยอะๆ ซึ่งหมอไม่แนะนำเลย ไข่เป็นกรดอะมิโน ซึ่งเป็นอาหารกรดเมื่อกินไปเยอะๆ ก็ทำให้มีความเป็นกรดเยอะไตก็จะทำงานหนักเช่นกัน ในคนที่มีโปรตีนต่ำแนะนำว่าให้ใช้เป็นเวย์โปรตีน หรือใช้เป็น Plant based protein ให้ทานสิ่งเหล่านี้เสริมเข้าไป แต่ก็ไม่แนะนำให้ทานในปริมาณมากๆ ควรทานน้อยๆ แต่พอดี การกินไข่สู้การกินโปรตีนเสริมเหล่านี้ไม่ได้ เพราะว่าในโปรตีนเสริมเหล่านี้มีสิ่งที่เรียกว่า Branched chain amino acid เป็นกรดอะมิโนที่เอาไปสร้างอัลบูมินได้ดี ถ้าเกิดอัลบูมินต่ำหรือโปรตีนต่ำให้ทานเป็นพวกโปรตีนเสริมเหล่านี้จะดีกว่า แต่อย่าทานเยอะจนเกินไป

6.โซดามินท์
โซดามินท์สำคัญมากในผู้ป่วยไตวาย ควรทานทุกคนเพราะโซดามินท์มีความเป็นด่าง จะทำให้ไตทำงานเบาลง ช่วยชะลอไตเสื่อม
วิธีรับประทาน คือ ห้ามรับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารเด็ดขาด เพราะว่าโซดามินท์มีความเป็นด่างสูง ในกระเพาะอาหารจะต้องใช้กรด ในการย่อยอาหาร ถ้าเกิดทานโซดามินท์เข้าไปจะทำให้อาหารไม่ย่อยและเกิดท้องอืดได้ ควรทานโซดามินท์ ครั้งละ 4 เม็ด ทานก่อนอาหาร 1 ชม. หรือทานตอนท้องว่าง หรือถ้าจะทานหลังอาหารควรทานหลังทานอาหารไปแล้ว 2-3 ชม. ไม่งั้นจะทำให้อาหารไม่ย่อย แต่ไม่แนะนำให้รับประทานโซดามินท์ก่อนนอน เพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อย ให้ทานช่วงกลางวันจะดีกว่าเพราะจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการปัสสาวะในตอนกลางคืน

7.อาหารเสริม
ที่ควรทานสำหรับคนที่เป็นโรคไต คือ Vitamin D, Vitamin K และโปรไบโอติกส์
– Vitamin D ปกติแล้วไตมีหน้าที่ในการช่วยสร้างวิตามินดี เพราะฉะนั้นคนที่เป็นโรคไตมักจะขาดวิตามินดี และเมื่อเราขาดวิตามินดีก็จะทำให้เรามีปัญหาเรื่องของกระดูก จะทำให้เราเกิดปัญหากระดูกบางกระดูกพรุน เพราะว่าวิตามินดีจะช่วยดูดซึมแคลเซียมจากอาหารเข้าไปในกระแสเลือดมากขึ้น พอเวลาที่เราขาดวิตามินดีก็จะทำให้แคลเซียมในเลือดต่ำ พอเวลาที่แคลเซียมในเลือดต่ำร่างกายก็จะถูกกระตุ้นทำให้กระดูกสลายแคลเซียมจากกระดูกออกมาเพื่อเติมแคลเซียมเข้าไปในหลอดเลือด เพราะฉะนั้นถ้าขาดวิตามินดีจะทำให้เกิดกระดูกบางกระดูกพรุนได้
– Vitamin K จะช่วยนำแคลเซียมไปที่กระดูก ลดภาวะแคลเซียมสูงในหลอดเลือด เวลาที่ลดภาวะแคลเซียมสูงในหลอดเลือดมีข้อดี คือ จะป้องกันหลอดเลือดเสื่อมได้ แคลเซียมถ้าอยู่ในหลอดเลือดเยอะเกินไป จะทำให้แคลเซียมไปเกาะไปพอกในหลอดเลือดแล้วทำให้หลอดเลือดมีความแข็งตัวและเสื่อมสภาพ แล้วก็วิตามินเคช่วยป้องกันนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้ด้วย ถ้าเกิดเรามีนิ่วก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไตวายได้ เพราะฉะนั้นวิตามินเคก็จะมีประโยชน์หลายอย่าง และช่วยเรื่องของกระดูกได้แน่นอน เพราะว่าช่วยนำแคลเซียมไปเติมที่กระดูก

สนใจสินค้าสุขภาพที่คุณหมอพูดถึงในคลิป สามารถสั่งซื้อได้ทาง Line@ของคลีนิคค่า
📌LINE : https://lin.ee/piE9kvf
——————————-
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
📌 เพจ : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 Youtube : https://youtube.com/c/อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 IG : dr.cant.help

ติดต่อเรา