เสริมเกราะ สร้างภูมิ สู้เชื้อไวรัสร้าย!
.
เชื้อไวรัสปัจจุบันติดง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก บางคนเคยติดมาแล้วแต่ก็กลับไปติดซ้ำอีก ตอนนี้คนรอบตัวของเราหลายๆ คนก็อาจจะทยอยติดเชื้อกันไปเป็นส่วนมากแล้ว รวมถึงตัวเราเองก็ด้วยที่อาจเคยติดเชื้อมาแล้วก็ได้ ซึ่งการติดเชื้อไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี เพราะหลังจากหายจากติดเชื้อแล้ว แต่อาการต่างๆ ไม่ได้หายไปด้วย ยังคงมีอาการเรื้อรังต่อเนื่องยาวนาน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วการเสริมเกราะป้องกันเชื้อไวรัสจึงสำคัญอย่างยิ่ง
.
1. ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ทุกวันนี้คนไทยได้รับการฉีดวัคซีนเยอะขึ้น เมื่อฉีดวัคซีนป้องกันแล้วโอกาสเจ็บหนักก็น้อยลง แนะนำให้ฉีดวัคซีน mRNA (Pfizer, Moderna) เนื่องจากไวรัสกลายพันธุ์ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย กระจายเชื้อได้เร็ว ผลการศึกษาพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA จะช่วยกระตุ้น antibody ได้สูงมากพอที่จะรับมือกับโอไมครอน ป้องกันการเจ็บหนักได้
.
2. การทำ Social distancing ยังจำเป็นอยู่ ทั้งการสวมแมสก์ ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ก็ยังมีสถานที่เสี่ยงที่อาจติดเชื้อได้ง่าย เป็นสถานที่ที่ควรเลี่ยงหรือควรป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด คือ
– โรงเรียน เป็นสถานที่ที่น่าห่วง โดยเฉพาะโรงเรียนเด็กเล็กหรือเด็กนักเรียน เป็นกลุ่มที่การดูแลตัวเองยังไม่ดีเท่าผู้ใหญ่จึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย แล้วเมื่อเด็กติดเชื้อก็จะพาเชื้อมาติดพ่อแม่ต่อ เบื้องต้นจึงควรทำภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอนให้เร็ว นอนให้เพียงพอ กินอาหารที่หลากหลาย มีคุณค่าทางโภชนาการ
– ร้านอาหารติดแอร์ เมื่อไปร้านอาหารยังไงเราก็ต้องเปิดแมสก์เพื่อกินอาหารกันอยู่แล้ว หากอยากไปร้านอาหารควรเลือกเป็นร้านอาหาร Out Door ที่ไม่มีแอร์ อากาศถ่ายเทได้สะดวก โอกาสที่จะติดเชื้อไวรัสก็จะน้อยลง
– เครื่องบิน รถทัวร์ รถสาธารณะที่เป็นแอร์ เป็นที่ที่อากาศปิด ไม่ถ่ายเท มีคนอยู่ร่วมกันจำนวนมาก โอกาสติดเชื้อก็จะยิ่งสูงมากขึ้นไปด้วย จึงต้องสวมแมสก์อยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงที่หมายก็ควรฉีดแอลกอฮอล์ให้ทั่วหรือล้างมือให้สะอาด
– ผับบาร์ เพราะต้องมีการเปิดแมสก์เพื่อการดื่ม การกิน แล้วผับบาร์ก็มักเปิดตอนกลางคืน หากเราไปเที่ยวก็ยิ่งทำให้เรานอนดึก เมื่อเรานอนดึก ภูมิคุ้มกันก็จะยิ่งตกไปด้วย ทางที่ดีหากไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยง
.
3. มีไลฟ์สไตล์ที่ดี นอนเพียงพอ กินอาหารที่หลากหลาย เน้นผักหลากสี จะช่วยใหัโอกาสติดเชื้อหรือเจ็บหนักน้อยลง โอกาสเกิด Long Covid ก็จะน้อยลงด้วย ซึ่งอาการ Long Covid เป็นอาการที่เกิดหลังจากหายจากการติดเชื้อแล้วแต่ยังมีอาการเรื้อรังต่อเนื่องยาวนาน เช่น หอบเหนื่อย อ่อนเพลีย ไอต่อเนื่อง ผมร่วง สมองเบลอ ความจำไม่ดี คิดอะไรไม่ออก มีผื่นคัน หากใครที่มีอาการ Long Covid ยาวนานจะมีความสัมพันธ์กับการเสื่อมของสมองในระยะยาวอีกด้วย
.
4. เสริมอาหารเสริมที่ดี อาหารเสริมของผู้ใหญ่ที่จะช่วยลดการติดเชื้อ ป้องกันการเจ็บหนัก, ป้องกัน Long Covid รวมถึงป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
– 🧅Quercetin ยับยั้งการเข้าเซลล์ของไวรัส บรรเทาภูมิแพ้ ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
– 🐟Fish oil ลดการอักเสบ ป้องกัน Long Covid ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดได้
– 🍊วิตามิน D, C, Zinc ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้
ในเด็กหลายคนกำลังอยู่ในวัยเลือกกิน ไม่กินเนื้อสัตว์บ้าง ไม่กินผักผลไม้บ้าง ซึ่งอาจทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ การเพิ่มอาหารเสริมที่ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี ควรเลือกวิตามินรวมหรือมีวิตามินหลายๆ ตัว ที่มีส่วนของวิตามิน B, วิตามิน C, วิตามิน D, วิตามิน E, Zinc, Selenium, Magnesium เลือกที่โดสต่ำๆ เพื่อให้เด็กทานได้ทุกวัน แนะนำเสริมด้วย
– 🥬Multivitamin : วิตามินและแร่ธาตุสำหรับเด็ก เสริมสร้างสุขภาพ และเสริมภูมิคุ้มกันสำหรับเด็ก
– 🐟Kids DHA : มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างสติปัญญา บำรุงสมอง
.
5. นอนหลับให้เพียงพอ ในช่วงที่นอนหลับ ร่างกายจะมีการซ่อมแซมส่วนสึกหรอและสร้างเซลล์ใหม่ๆ จึงควรจัดเวลานอนให้เพียงพอ ยิ่งนอนดึก ภูมิยิ่งตก ร่างกายอ่อนแอ จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
.
6. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่สร้างสารภูมิคุ้มกันและจับกินเชื้อโรค ทำงานได้ดีขึ้น แล้วในเด็กคุณพ่อคุณแม่ควรคอยกระตุ้นให้ได้ออกกำลังกายด้วยการเล่นกับลูก เดิน วิ่ง หรือเต้นตามเพลงก็ได้ เพื่อให้เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกายก็เป็นการออกกำลังกายได้อย่างหนึ่ง
