5 อาหารเสริมที่ควรทานเพื่อป้องกันไวรัส ในปัจจุบันนี้เรากำลังเผชิญกับโรคระบาดที่ร…

5 อาหารเสริมที่ควรทานเพื่อป้องกันไวรัส
ในปัจจุบันนี้เรากำลังเผชิญกับโรคระบาดที่ระบาดหนักกันทั่วโลก ซึ่งคนที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง หรือมีภูมิคุ้มกันที่ดี จะมีโอกาสติดเชื้อได้น้อย และถึงแม้จะติดเชื้อก็จะมีอาการน้อย ไม่รุนแรง จึงเห็นได้ว่า ถ้าเรามีสุขภาพที่ดี มีภูมิคุ้มกันที่ดี เราก็จะมีเกราะป้องกันไวรัสที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงมาคุยกันในเรื่องของอาหารเสริมที่ควรทานเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสกันค่ะ
1. Vitamin D3
คนทั่วไป ควรทาน 5,000 iu/วัน ในคนสูงอายุ ถ้าพึ่งเริ่มทาน ควรทานเป็น 10,000 iu/วัน เป็นระยะเวลา 1 เดือน แล้วค่อยลดลงมาทานเป็น 5,000 iu/วัน ในการตรวจระดับวิตามินดี ควรต้องเกิน 50-60 ขึ้นไป จึงจะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
เนื่องจากไวรัสเมื่อลงไปที่ปอด ไวรัสจะไปจับกับตัวรับที่ปอด วิตามินดีเป็นตัวช่วยป้องกันในเรื่องนี้ได้ ช่วยทำให้ไวรัสจับตัวกับตัวรับได้ยากขึ้น
2. Vitamin C
ควรทาน 1,000 iu/วัน แต่ในช่วงภาวะแบบนี้ควรทาน 2,000 iu/วัน ช่วยในเรื่องของการเพิ่มภูมิคุ้มกันและเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทานในรูปแบบ Sustained Release ซึ่งเป็นรูปแบบที่ดูดซึมวิตามินได้ดีกว่า ระคายเคืองกระเพาะอาหารน้อยกว่า แต่ห้ามทานในช่วงเย็น หรือ ช่วงกลางคืน เพราะมีความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากวิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ถ้าทานช่วงเย็นหรือก่อนนอน แล้วไม่ได้เข้าห้องน้ำ วิตามินจะไปค้างอยู่ในทางเดินปัสสาวะ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้มากขึ้น
3. Zinc
ควรทานในฟอร์ม Chelated Zinc 15 mg ขึ้นไป ซึ่งเป็นรูปแบบฟอร์มของกรดอะมิโน (โปรตีน) ทำให้โอกาสเป็นพิษยาก หรือจะทานในรูปแบบตัว Multimineral ซึ่งมีแร่ธาตุหลายตัว และ Zinc ก็เป็นตัวหนึ่งในนั้น ข้อดีของการมี Zinc ที่มีแร่ธาตุต่างๆ จะทำให้ร่างกายเป็นด่างมากขึ้น ถ้าร่างกายเป็นด่างมากขึ้น น้ำรอบๆ เซลล์จะมีความเป็นด่างจะทำให้ไวรัสติดเข้าไปในเซลล์ยากขึ้น ในตัว Multimineral ก็จะช่วยในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
แร่ธาตุที่ทำให้ร่างกายเป็นด่างมากขึ้น คือ แมกนีเซียม (Magnesium) และ โพแทสเซียม (Potassium) ซึ่งแมกนีเซียม เป็นตัวช่วยสร้างวิตามินดีของร่างกาย ทำให้ร่างกายสร้างวิตามินดีได้ดีขึ้น ควรทานในรูปแบบ Chelated Magnesium
4. Fish Oil
เมื่อเวลาเชื้อไวรัสลงปอดจะทำให้ปอดอักเสบ มีการสร้างสารอักเสบขึ้นมาเป็นจำนวนมาก Fish Oil จะช่วยลดการอักเสบได้ ช่วยลดสารอักเสบให้น้อยลงทำให้อาการเจ็บหนักน้อยลงตามไปด้วย
การทาน Fish Oil ควรทานแบบ EPA และ DHA เกินกว่า 60% ขึ้นไป เช่น Fish Oil 1 เม็ด มีขนาด 1,000 mg ให้เลือกทาน EPA และ DHA เกิน 600 mg ขึ้นไป
การทาน Fish Oil เมื่อทานอย่างต่อเนื่อง สารอักเสบในร่างกายจะลดน้อยลง โอกาสเป็นปอดอักเสบมีน้อยลง และในส่วนของวัคซีน คือ ช่วยให้โอกาสในการเกิดลิ่มเลือดยากขึ้นด้วย
5. Melatonin
เวลาจะนอนต่อมไพนีล หรือต่อมเหนือสมอง (Pineal gland) จะมีการสร้างเมลาโทนิน (Melatonin) ออกมาทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น
เด็กเมื่อติดเชื้อจะสังเกตุได้ว่า เด็กจะไม่ค่อยมีอาการ หรือ มีอาการน้อยมาก ซึ่งในงานวิจัยพบว่า เมลาโทนินในเด็กมีจำนวนที่สูง อาการต่างๆ เลยมีน้อย และเซลล์ปอดในเด็กยังสดใหม่ ไม่เหมือนคนสูงอายุ ยิ่งถ้าเป็นคนสูบบุหรี่ต้องควรระวังเพราะปอดจะแย่กว่าคนปกติ
เด็กที่อายุต่ำกว่า 9 ขวบ เมื่อติดเชื้อจะมีอาการไม่รุนแรง เพราะเป็นช่วงอายุที่เมลาโทนินดีที่สุด และในเด็กที่อาการไม่รุนแรงส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเมลาโทนิน ส่วนของผู้ใหญ่ ที่มีอายุเยอะขึ้นเมลาโทนินจะลดลงมาก เช่น อายุ 50-60 ปี มักจะมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ เพราะส่วนหนึ่งเมลาโทนินสร้างได้น้อยลง ทำให้นอนหลับไม่สนิท ซึ่งข้อดีของเมลาโทนิน คือ ช่วยให้นอนดี และการนอนดีทำให้ภูมิดีอีกด้วย (ผู้สูงอายุ ควรทานเมลาโทนินเสริมได้ ทานประมาณ 3-5 mg)
วิธีการทานเมลาโทนิน มี 2 แบบ คือ การอมใต้ลิ้น และการกลืน ซึ่งถ้าเป็นคนหลับยาก ควรทานแบบอมใต้ลิ้น แต่ถ้าเป็นคนที่มักจะตื่นนอนมากลางดึก ควรทานแบบกลืน (เนื่องจากรูปแบบอมใต้ลิ้น หาซื้อยาก คนหลับยาก แนะนำให้ทานก่อนนอน 1-2 ชม.)

สนใจสินค้าสุขภาพที่คุณหมอพูดถึง สามารถสั่งซื้อได้ทาง Inbox หน้าเพจ
หรือ Line@ของคลีนิคค่า
✅LINE : https://lin.ee/piE9kvf
——————————-
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
📌 เพจ : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 Youtube : https://youtube.com/c/อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 IG : dr.cant.help

ติดต่อเรา