8 สิ่งน่ากลัวที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย เมื่อคุณทาน “อาหารปิ้งย่าง” . อาหารปิ้งย่าง…

8 สิ่งน่ากลัวที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย เมื่อคุณทาน “อาหารปิ้งย่าง”
.
อาหารปิ้งย่างเป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่ชอบทาน เพราะรสชาติฉ่ำๆ ของเนื้อ น้ำจิ้มที่แสนอร่อย เครื่องเคียงที่โดนใจ ในบางคนที่ไม่ชอบกินผักการกินปิ้งย่างก็เป็นอาหารที่ดีต่อใจ ซึ่งการกินปิ้งย่างนอกจากจะได้รสชาติที่ถูกใจแล้ว บรรยากาศในการปิ้งย่างก็เป็นสิ่งที่หลายคนชอบ เพราะได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่รัก แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เราทำให้เรามีความสุขนั้นก็เป็นดาบ 2 คม ที่ทำลายสุขภาพของเราได้เช่นกัน วันนี้เราจึงจะมาพูดคุยถึงผลข้างเคียงหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของเราเมื่อเราทานอาหารปิ้งย่างกันค่ะ
.
1. เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคเบาหวาน ในส่วนของวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงที่จะต้องหมักให้เนื้อสัตว์มีรสชาติ เพิ่มความอร่อย ก็มักจะมีพวกเกลือหรือน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ พวกโซเดียมที่อยู่ในเครื่องปรุงก็อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคความดันโลหิตสูง ยิ่งคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงอยู่แล้วเมื่อกินเข้าไปก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมากขึ้น แล้วคนที่เป็นโรคเบาหวานเมื่อกินเนื้อย่างเข้าไป เกิดความเพลิดเพลิน รสชาติอร่อย กินเพลินจนลืมตัว ทำให้เป็นการกินน้ำตาลมากเกินไปจนไม่รู้ตัวได้เช่นกัน
.
2. เสี่ยงเป็นโรคอ้วน อาหารจำพวกปิ้ง ย่าง ทอด ผัด หรืออาหารแปรรูปต่างๆ จะมีไขมัน โซเดียม หรือน้ำตาลมากเกินไป แต่จะมีพวกไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุ ที่ต่ำ หากเมื่อกินเป็นประจำ หรือกินมากเกินความต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกายในปริมาณมากจึงทำให้เกิดโรคอ้วนได้ และเมื่อเป็นโรคอ้วนก็อาจมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ข้อเข่าเสื่อม เป็นต้น
.
3. เสี่ยงเกิดมะเร็ง การปิ้งย่างจะมีการใช้ความร้อนหรือใช้อุณหภูมิสูง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับสารเคมีที่เรียกว่า PAHs (polycystic aromatic hydrocarbons) ซึ่งสารนี้มีความเชื่อมโยงกับมะเร็งบางชนิดที่เกิดจากการเผาไหม้ ทั้งการเผาไหม้จากเครื่องยนต์ เชื้อเพลิงจากโรงงาน เกิดไฟป่า แล้วสารนี้มักพบปนเปิ้อนในเนื้อสัตว์จากการปิ้งย่าง ทั้งหมูย่าง เนื้อย่าง ไก่ย่าง หากได้รับสาร PAHs อย่างต่อเนื่องก็เป็นพิษต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย เสี่ยงเกิดมะเร็งได้สูงขึ้น
.
4. ท้องผูก อาหารปิ้งย่างส่วนมากจะเน้นพวกเนื้อสัตว์เป็นหลัก มีพืชเป็นส่วนประกอบน้อย แม้เนื้อสัตว์จะมีโปรตีนที่ให้ประโยชน์กับร่างกาย แต่หากทานมากเกินไปก็ทำให้เกิดท้องผูกหรือสำไส้แปรปรวน อาหารไม่ย่อยได้เช่นกัน ซึ่งการทานเนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียวจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน กว่าที่จะขับถ่ายออกมา ควรทานพืช ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูง ควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยปรับสมดุลให้กับลำไส้
.
5. มีอนุมูลอิสระและการอักเสบมากขึ้น เมื่อมีการทานอาหารปิ้งย่างเข้าไปจะเป็นการเพิ่มอนุมูลอิสระและการอักเสบให้กับร่างกาย เพราะการปิ้งย่างมีการใช้ความร้อนสูงจึงเกิดเป็นสาร AGEs (advanced glycation end products) ขึ้นมา เมื่อสารนี้เกิดขึ้นมาและเข้าไปในร่างกายส่งผลให้ร่างกายมีการเสื่อมสภาพมากขึ้น เกิดการอักเสบในร่างกายที่เพิ่มขึ้น แล้วเมื่อร่างกายมีการเสื่อมสภาพ มีอนุมูลอิสระ มีการอักเสบมากเกินไปจะทำให้เกิดเป็นโรคเรื้อรังได้หลายชนิด รวมถึงมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย
.
6. คอเลสเตอรอลสูง หากคุณชอบกินปิ้งย่างเป็นประจำ สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ คือ การเพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอล โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของไขมันเลว (LDL) ยิ่งมีมากยิ่งเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้มากขึ้น
.
7. ผู้หญิงเสี่ยงมีบุตรยาก อย่างที่รู้ว่าในอาหารปิ้งย่างจะมีสาร AGEs (advanced glycation end products) ที่ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพ ซึ่งงานวิจัยที่วิจัยเกี่ยวกับโพรงมดลูกของสตรีที่พยายามตั้งครรภ์ พบว่า การที่มีสาร AGEs ในร่างกายทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์ที่อยู่ในมดลูก ทำให้การฝังตัวของตัวอ่อนทำได้ยากมากขึ้น ดังนั้นสตรีที่อยากตั้งครรภ์หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์ในอนาคตควรหลีกเลี่ยงอาหารปิ้งย่างที่ก่อให้เกิดสาร AGEs เพราะหากมีสาร AGEs มากเกินไปจะส่งผลให้มีปัญหาเรื่องการตังครรภ์ได้
.
8. อาจทำให้น้ำหนักทารกแรกเกิดน้อยกว่าปกติ งานวิจัยพบว่า การกินอาหารปิ้งย่างขณะตั้งครรภ์มีความเชื่อมโยงกับน้ำหนักทารกแรกเกิดที่น้อยกว่าปกติ เพราะว่าในอาหารปิ้งย่างมีสาร PAHs (polycystic aromatic hydrocarbons) ที่ส่งผลเสียต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรระวังและเลี่ยงอาหารปิ้งย่างจะดีต่อทารกในครรภ์
.
อาหารปิ้งย่างเป็นสิ่งที่หลายคนชอบ มีรสชาติอร่อย ถูกปาก มีความเพลิดเพลินในการกิน แต่ความอร่อยนั้นก็แฝงไว้ด้วยภัยอันตรายต่อสุขภาพมากมาย ควรกินให้น้อย กินแต่พอดี ควรเพิ่มพืช ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูงเข้าไปในมื้ออาหารด้วยก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะดูแลสุขภาพได้ แต่อย่างไรก็ควรออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หรือเสริมอาหารเสริมที่ช่วยดูแลสุขภาพให้ตรงจุดก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกันนะคะ : )

ติดต่อเรา