Brain Detox : ถึงเวลาทําความสะอาดสมองแล้วหรือยัง? . สมองก็ต้องการล้างพิษและการดี…

Brain Detox : ถึงเวลาทําความสะอาดสมองแล้วหรือยัง?
.
สมองก็ต้องการล้างพิษและการดีท็อกซ์เหมือนกันไม่ต่างจากการดีทอกซ์ลำไส้ ตับ หรือไต แล้วเราจะมีวิธีใดบ้างในการทำดีทอกซ์ให้สมอง ในเมื่อมันเป็นวิธีการของสุขภาวะทางจิต วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีดีท็อกซ์สมองที่ได้ผล 7 วิธีกันค่ะ
.
1.นอนหลับให้เพียงพอ คนส่วนใหญ่ต้องการนอนหลับประมาณ 7-9 ชั่วโมง/คืน เพื่อที่จะตื่นมาอย่างสดชื่นและมีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างดีที่สุด วิธีการที่จะทำให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น คือ ต้องรักษาระเบียบวินัยในการนอนนั่นคือ พยายามเข้านอนและตื่นในเวลาเดียวกันทุกๆ วัน เพื่อควบคุมนาฬิกาชีวิตให้เที่ยงตรง นอนในห้องที่มืดสนิทและเย็นสบาย ไม่ควรใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนแต่ให้อ่านหนังสือหรือฟังเสียงที่ผ่อนคลายก่อนการนอนจะเป็นวิธีที่ดีกว่า
.
2.รับประทานอาหารสมองให้เพียงพอ สมองของเราต้องการโปรตีน ไขมัน โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินและแร่ธุาตุที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูเซลล์ประสาท ซึ่งสามารถพบได้จากการรับประทานอาหารจำพวก
– ผักใบเขียว ผักหลากหลายสี เช่น พริกหยวก บร็อคโคลี แครอท
– ผลไม้สด หรือผลไม้หวานน้อย ประเภทเบอร์รี่
– สมุนไพรและเครื่องเทศ เช่น ขมิ้น ขิง กระเทียม
– อาหารหมักที่มีจุลินทรีย์ เช่น โยเกิร์ต คีเฟอร์ กิมจิ กะหล่ำปลีดอง
– ถั่วและเมล็ดพืช
– คาร์โบไฮเดรตที่ไม่ผ่านการแปรรูป เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ
– อาหารที่มีธาตุทองแดง วิตามินซี และแมงกานีสสูง มักพบใน ผลไม้รสเปรี้ยว เห็ด ผักใบเขียว และสาหร่ายเกลียวทอง
– ไขมันดี พบได้ใน อะโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว
– ดื่มน้ำตลอดทั้งวัน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของเซลล์สมอง และทำให้ระบบภูมิต้านทานร่างกายดีขึ้น
.
3. เลี่ยงรับประทานอาหารเหล่านี้
– อาหารเย็นที่เป็นมื้อหนักๆ เช่น บุฟเฟต์ หรือโต๊ะจีน
– อาหารรสเผ็ดหรือเปรี้ยวจัด ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูและพริกซึ่งทำให้ร่างกายมีความเป็นกรดสูง
– อาหารที่มีคาเฟอีนสูง เช่น กาแฟ ช็อคโกแลต ชา
– เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
.
4.ออกกำลังกาย การออกกำลังกายระหว่างวัน พาตนเองไปรับแสงแดดอ่อนๆ จะทำให้การนอนหลับของคุณดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ การออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ หรือเล่นโยคะยามเช้า รวมระยะเวลาให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ จะทำให้คุณเข้าสู่การหลับลึกได้รวดเร็วขึ้นในแต่ละคืน
.
5. อดอาหารเป็นช่วงๆ การฝึกอดอาหารเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งต้องมีการฝึกและการแนะนำจากมืออาชีพ เช่น วิธีที่กำลังแพร่หลายและได้รับความนิยมขณะนี้คือ การรับประทานอาหารให้ตรงเวลา เป็นช่วงๆ และไม่รับประทานเลยนอกเหนือจากช่วงเวลาที่กำหนด อาจจะกำหนดเวลารับประทานแค่ช่วงเวลา 8.30 am. – 16.30 pm. หลังจากนั้นก็ไม่รับประทานอาหารใดๆ อีกเลยนอกจากน้ำดื่ม ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนักได้ และยังพบว่าการอดอาหารนั้น ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำ ความระมัดระวัง และความสามารถในการเรียนรู้ ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมง่ายขึ้น
.
6. ลดการสัมผัสมลภาวะหรือสารพิษ หลีกเลี่ยงการพบเจอสารเคมีและสารพิษ หรือลดปริมาณลงให้น้อยที่สุด ติดเครื่องอากาศในบ้าน ในที่ทำงาน และเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงรส การแปรรูป เช่น อาหารคลีน หรืออาหารออร์แกนิค เป็นต้น
.
7.รับประทานอาหารเสริม อาหารเสริมและสมุนไพรก็เป็นอีกทางลัดหนึ่งสำหรับการช่วยให้สมองได้รับการดีท็อกซ์เร็วขึ้น เช่น
– แอลกลูตาไธโอน
– แอลธีโอนีน
– อาหารเสริมต่อต้านความชรา NAD+
– วิตามินซี
– สารสกัดจากชาเขียว
– โปรไบโอติกหรือจุลินทรีย์ที่ดีต่อลำไส้
– สารสกัดจากต้นมิลค์ทิสเทิลที่มีผลต่อการบำรุงตับ
– สารสกัดจากเห็ดต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายและเซลล์ต่างๆแข็งแรงขึ้น
.
อะไรคือสัญญาณของการที่สมองของเราเริ่มล้างพิษหรือดีทอกซ์?
– มีอาการปวดศีรษะ
– อ่อนเพลียและนอนหลับไม่สนิท
– ปัสสาวะบ่อย
– อุจจาระเหลวและท้องเสียง่าย
– รู้สึกอยากทานอาหารประเภทของหวานและคาร์โบไฮเดรต
– คลื่นไส้ มวนท้อง อยากอาเจียน
– ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
– หงุดหงิด
สิ่งเหล่านี้ควรหายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่ถ้ายังมีอาการอยู่ คุณควรปรับเข้ารับคําแนะนําจากจิตแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีปัญหาสุขภาพที่มีอยู่ก่อนแล้ว เช่น เป็นโรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน หรือโรคอัลไซเมอร์มาก่อนหน้านี้นะคะ

สมองก็ต้องการล้างพิษและการดีท็อกซ์เหมือนกันไม่ต่างจากการดีทอกซ์ลำไส้ ตับ หรือไต แล้วเราจะมีวิธีใดบ้างในการทำดีทอกซ์ให้สมอง ในเมื่อมันเป็นวิธีการของสุขภาวะทางจิต วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีดีท็อกซ์สมองที่ได้ผล 7 วิธีกันค่ะ
.
1.นอนหลับให้เพียงพอ คนส่วนใหญ่ต้องการนอนหลับประมาณ 7-9 ชั่วโมง/คืน เพื่อที่จะตื่นมาอย่างสดชื่นและมีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างดีที่สุด วิธีการที่จะทำให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น คือ ต้องรักษาระเบียบวินัยในการนอนนั่นคือ พยายามเข้านอนและตื่นในเวลาเดียวกันทุกๆ วัน เพื่อควบคุมนาฬิกาชีวิตให้เที่ยงตรง นอนในห้องที่มืดสนิทและเย็นสบาย ไม่ควรใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนแต่ให้อ่านหนังสือหรือฟังเสียงที่ผ่อนคลายก่อนการนอนจะเป็นวิธีที่ดีกว่า
.
2.รับประทานอาหารสมองให้เพียงพอ สมองของเราต้องการโปรตีน ไขมัน โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินและแร่ธุาตุที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูเซลล์ประสาท ซึ่งสามารถพบได้จากการรับประทานอาหารจำพวก
– ผักใบเขียว ผักหลากหลายสี
– ผลไม้สด หรือผลไม้หวานน้อย ประเภทเบอร์รี่
– สมุนไพรและเครื่องเทศ
– อาหารหมักที่มีจุลินทรีย์
– ถั่วและเมล็ดพืช
– คาร์โบไฮเดรตที่ไม่ผ่านการแปรรูป
– อาหารที่มีธาตุทองแดง วิตามินซี และแมงกานีสสูง
– ไขมันดี พบได้ใน อะโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว
– ดื่มน้ำตลอดทั้งวัน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของเซลล์สมอง และทำให้ระบบภูมิต้านทานร่างกายดีขึ้น
.
3. เลี่ยงรับประทานอาหารเหล่านี้
– อาหารเย็นที่เป็นมื้อหนักๆ เช่น บุฟเฟต์ หรือโต๊ะจีน
– อาหารรสเผ็ดหรือเปรี้ยวจัด ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูและพริกซึ่งทำให้ร่างกายมีความเป็นกรดสูง
– อาหารที่มีคาเฟอีนสูง เช่น กาแฟ ช็อคโกแลต ชา
– เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
.
4.ออกกำลังกาย การออกกำลังกายระหว่างวัน พาตนเองไปรับแสงแดดอ่อนๆ จะทำให้การนอนหลับของคุณดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
.
5. อดอาหารเป็นช่วงๆ หรือทำ IF
.
6. ลดการสัมผัสมลภาวะหรือสารพิษ หลีกเลี่ยงการพบเจอสารเคมีและสารพิษ หรือลดปริมาณลงให้น้อยที่สุด ติดเครื่องอากาศในบ้าน ในที่ทำงาน และเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงรส การแปรรูป เช่น อาหารคลีน หรืออาหารออร์แกนิค เป็นต้น
.
7.รับประทานอาหารเสริม อาหารเสริมและสมุนไพรก็เป็นอีกทางลัดหนึ่งสำหรับการช่วยให้สมองได้รับการดีท็อกซ์เร็วขึ้น เช่น
– แอลกลูตาไธโอน
– แอลธีโอนีน
– อาหารเสริมต่อต้านความชรา NAD+
– วิตามินซี
– สารสกัดจากชาเขียว
– โปรไบโอติกหรือจุลินทรีย์ที่ดีต่อลำไส้
– สารสกัดจากต้นมิลค์ทิสเทิลที่มีผลต่อการบำรุงตับ
– สารสกัดจากเห็ดต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายและเซลล์ต่างๆแข็งแรงขึ้น

ติดต่อเรา