ปลาเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ได้แก่
- โปรตีน เป็นแหล่งพลังงานของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และระบบเผาผลาญทำงานเป็นปกติ
- วิตามินดี เป็นวิตามินที่ดูดซึมได้ด้วยไขมัน ซึ่งพบได้มากในปลาที่มีไขมันสูง
- ไอโอดีน เป็นแร่ธาตุที่พบได้ในอาหารทะเล เป็นสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์
- Omega-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว เป็นสารอาหารที่พบมากในปลาและอาหารทะเล มีประโยชน์ต่อสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือดเป็นอย่างมาก
- ลดไตรกลีเซอไรด์
- ลดความดันโลหิตได้เล็กน้อย
- ลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจล้มเหลว
- ลดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ
การรับประทานปลาอย่างน้อย 1 มื้อต่อสัปดาห์ สามารถลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจได้
นอกจากคุณประโยชน์ที่โดดเด่นกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ปลายังมีประโยชน์อีกหลายประการ
- ปลามี DHA ซึ่งเป็นกรดไขมัน Omega-3 ชนิดหนึ่ง ส่งผลดีต่อการพัฒนาของสมองและดวงตาของเด็กในครรภ์ เนื่องจากทะเลในปัจจุบันมีการปนเปื้อน สารปรอทที่ปนเปื้อนอาจส่งผลเสียต่อเด็กในครรภ์ได้ จึงมีข้อควรระวังคือ เลือกชนิดของปลาที่มีสารปรอทสะสมอยู่น้อย เช่น แซลมอน ซาร์ดีน และบริโภคไม่เกิน 340 กรัมต่อสัปดาห์
- ช่วยลดความเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุ เนื่องจากมีการศึกษาค้นพบว่า คนที่กินปลาทุกสัปดาห์ มีสมองส่วนสีเทามากกว่า โดยสมองส่วนนี้เป็นส่วนที่ทำงานด้านอารมณ์และความจำ
- อาจช่วยป้องกันและบรรเทาอาการซึมเศร้า โดย omega-3 นั้นจะช่วยลดอาการซึมเศร้าและช่วยให้ยาที่ใช้รักษาอาการซึมเศร้านั้นทำงานได้ดีขึ้น
- อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคภูมิแพ้ตัวเอง โดยเบาหวานขนิดที่ 1 จัดเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง เนื่องจากเบต้าเซลล์ในตับอ่อนถูกทำลายด้วยภูมิคุ้มกันของตนเอง ส่งผลให้ผลิตอินซูลินไม่ได้ มีการศึกษาหลายฉบับพบว่า omega-3 หรือน้ำมันปลา ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเบาหวานชนิดนี้ในเด็ก และ omega-3 และ วิตามินดีในปลาช่วยลดการเกิดเบาหวานที่เกิดจากภูมิแพ้ตัวเองในผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยว่าการกินปลา อาจจะช่วยลดความความเสี่ยงของการเกิดโรครูมาตอยด์ และโรคปลอกประสาทเสื่อมได้ แต่ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
ปลาจากต่างประเทศ อาจมีราคาสูง กรมอนามัยระบุไว้ว่าปลาไทยที่หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพงมีหลายชนิดที่มี omega-3 มาก ได้แก่ ปลาจะละเม็ดขาว ปลาสำลี ปลากะพงขาว ปลากะพงแดง ปลาอินทรีย์ ปลาทู ปลาจะละเม็ดดำ ปลาเก๋า รวมถึงปลาน้ำจืดของไทยบางชนิด โดยเฉพาะปลาดุก ปลาสวาย ปลาช่อน ปลาสลิด ปลาตะเพียน ปลากราย ปลานิล และปลาไหล เป็นต้น และควรซื้อจากแหล่งที่สะอาด ปลอดภัย และปรุงสุกก่อนรับประทาน โดยควรกินให้หลากหลายทั้งปลาน้ำจืดและน้ำทะเล
การรับประทานปลา มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อย่าลืมเพิ่มเมนูปลาในมื้ออาหารของทุกสัปดาห์
https://www.healthline.com/nutrition/11-health-benefits-of-fish
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/heart-disease/in-depth/omega-3/art-20045614
https://www.bbc.com/thai/features-43269035
https://anamai.moph.go.th/mobile_detail.php?cid=76&nid=11724