น้ำตาลมีกี่ประเภท? กินแบบไหนปลอดภัยที่สุด! 🍬
.
ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในหมู่คนรักสุขภาพ น้ำตาล คือ สัญลักษณ์ของความชั่วร้าย มันทำลายสุขภาพของเรามากกว่าไขมันเสียอีก แต่เพราะในชีวิตประจำวันและอาหารบางประเภทนั้นไม่อาจหลีกเลี่ยงน้ำตาลได้ ทำให้บางครั้งเราไม่อาจเลี่ยงความหวานจากน้ำตาลได้ จึงเกิดน้ำตาลตัวเลือกใหม่ๆ ขึ้นมา คำถามคือ แล้วน้ำตาลแบบไหนกันที่เราควรจะหลีกเลี่ยง?
.
น้ำตาลส่วนใหญ่ในปัจจุบันแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ได้ 3 ประเภทด้วยกัน คือ
🔺 น้ำตาลจากธรรมชาติ เช่น ความหวานในผลไม้ อ้อย น้ำผึ้ง บีทรูท
🔺 น้ำตาลที่ผ่านกระบวนผลิต เช่น น้ำตาลทรายขาว รวมไปถึงไซรัปชนิดต่างๆ
🔺 น้ำตาลเทียม อย่างซูคราโลสและแซคคารีน
.
🟢 น้ำตาลธรรมชาติ ประกอบไปด้วย กลูโคสที่พบได้ในพืช ฟรุคโตสที่พบได้มากในผลไม้ น้ำผึ้งและอ้อย ซูโคลสที่พบได้ในพืชบางชนิดและแลคโตสที่พบได้ในนม แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ แต่หน่วยน้ำตาลบางชนิดหากทานมากไป ร่างกายจะแปรรูปเป็นไขมันสะสมพอกเอาไว้ที่ตับได้
〰️ กลูโคส : ร่างกายนำไปใช้งานได้ดี เป็นพลังงานของตับและกล้ามเนื้อ แต่หากมากไปก็สะสมเป็นไขมันได้เช่นกัน
〰️ ฟรุคโตส : ย่อยยาก หากทานมากไปจะกลายเป็นไขมันส่วนเกินสะสมในตับ
〰️ ซูโคลส : เนื่องจากเป็นมีส่วนประกอบเป็นกลูโคส + ฟรุคโตส จึงไม่ควรทานมากไปเช่นกัน
〰️ แลคโตส : ร่างกายบางคนไม่สามารถย่อยได้ จึงควรดื่นนมที่ปราศจากแลคโตสแทน
.
🔵 น้ำตาลที่ผ่านกระบวนการผลิต เช่น น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว น้ำเชื่อมชนิดต่างๆ เช่น น้ำเชื่อมข้าวโพด น้ำเชื่อมมอลต์ น้ำเชื่อมฟรุคโตส กากน้ำตาล แม้บางชนิดจะมีสารตั้งต้นเป็นน้ำตาลธรรมชาติ แต่ส่วนใหญ่น้ำตาลเหล่านี้ผ่านกระบวนการมามากจนส่งผลให้ร่างกายของเราย่อยได้ยาก หลายชนิดมีอันตรายมาก เช่น น้ำเชื่อมข้าวโพด (corn syrup) ที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน สาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ก่อให้เกิดไขมันพอกตับ เพิ่มระดับไขมันเลว และโรคอื่นๆ ตามมาอีกเป็นขบวนเลยค่ะ
.
🔴 น้ำตาลเทียม เป็นน้ำตาลที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนความหวานที่ได้จากน้ำตาลธรรมชาติ จุดประสงค์เพื่อช่วยให้คนลดน้ำหนักควบคุมปริมาณน้ำตาลได้ง่ายขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วน้ำตาลประเภทนี้จะมีแคลอรี่น้อยนั่นเอง แต่เนื่องจากเป็นจากสังเคราะห์จึงยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ถึงผลข้างเคียงจากการรับประทารสารทดแทนความหวานเหล่านี้ค่ะ
〰️ แอสปาร์แตม : แม้จะมีแคลอรี่น้อย แต่มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่ามันอาจเป็นปัจจัยก่อมะเร็งและอาหารปวดหัวได้
〰️ ซูคราโลส : ใช้ได้ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่ร่างกายย่อยได้ยาก เนื่องจากดัดแปลงมาจากน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน
〰️ อะซีซัลเฟม เค : พบได้บ่อยในขนมอบ ผลชข้างเคียงยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
.
จะเห็นว่า น้ำตาลที่อันตรายน้อยที่สุดก็คือ น้ำตาลจากธรรมชาตินั่นเองค่ะ ร่างกายของเราสามารถย่อยมันได้ดีกว่า ไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียงที่ตามมา แต่ที่อันตรายที่สุดคือน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการต่างๆ บางชื่อที่ต้องสังเกตุบนฉลากสินค้าและหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดคือ corn syrup, high-fructose syrup นั่นเองค่ะ
