แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในร่างกายของเรามากเป็นอันดับสี่ พบมากในกระดูกและเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย มีบทบาทสำคัญต่อระบบต่างๆ เพื่อให้เห็นความสำคัญของการทานแมกนีเซียมให้เพียงพอ วันนี้เราจึงเอาประโยชน์ทั้ง 8 ข้อของแมกนีเซียมบอกให้รู้กันค่ะ
1. ทำให้เกิดปฏิกิริยาชีวเคมี
แมกนีเซียมกว่า 60% ของร่างกายพบได้ในกระดูก ที่เหลือจะกระจายอยู่ที่กล้ามเนื้อ เลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย เนื่องจากหน้าที่หลักของแมกนีเซียมคือเป็นตัวช่วยในการทำเกิดปฏิกิริยาชีวเคมี เช่น การเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน เปลี่ยนโปรตีนเป็นกรดอะมิโน ซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย และช่วยควบคุมสารสื่อประสาทค่ะ
2. ตัวช่วยการออกกำลังกาย
แมกนีเซียมจะช่วยนำน้ำตาลเข้าไปยังกล้ามเนื้อเพื่อกำจัดแลคเตทที่ทำให้กล้ามเนื้อเกิดความเหนื่อยล้า และช่วยเสริมการออกกำลังกายในผู้สูงอายุและผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่านักกีฬาวอลเลย์บอลที่ได้รับแมกนีเซียมเสริม 250 มก./วัน ความสามารถในการกระโดดและกำลังแขนเพิ่มมากขึ้น แมกนีเซียมยังมีผลให้ระดับอินซูลินและความเครียดลดลง ทำให้ประสิทธิภาพการแข่งดีขึ้นและลดการเป็นตะคริวลงด้วย
3. ลดอาการซึมเศร้า
แมกนีเซียมมีส่วนสำคัญในการทำงานของสมองและอารมณ์ ผู้เชี่ยวชาญบางทานถึงกับตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ปัจจุบันมีคนเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้นเพราะแร่ธาตุในอาหารยุคนี้ลดน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก งานวิจัยชิ้นหนึ่งยังพบว่า อาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุลดลงเมื่อได้รับแมกนีเซียม 450 มก./วัน ค่ะ
4.ป้องกันเบาหวาน
งานวิจัยชี้ว่า กว่า 48% ของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (คนส่วนใหญ่เป็นเบาหวานชนิดนี้ค่ะ) มีแมกนีเซียมอยู่ในระดับต่ำมากค่ะ ย้ำด้วยงานวิจัยอีกชิ้นที่ติดตามชีวิตคนกว่า 4,000 คนในระยะเวลา 20 ปี พบว่า ในกลุ่มคนที่ได้รับแมกนีเซียมอย่างเพียงพอความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานนั่นมีน้อยกว่าอีกกลุ่มถึง 46% นอกจากนี้ในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ได้รับแมกนีเซียมเสริมเป็นประจำทุกวันความสามารถในการใช้อินซูลินก็มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยค่ะ
5. ช่วยลดความดันโลหิต
แมกนีเซียมมีคุณสมบัติช่วยคลายหลอดเลือด ภาวะขาดแมกนีเซียมทำให้หลอดเลือดมีแนวโน้มจะบีบตัวมากขึ้น นำมาซึ่งอาการความดันสูงและหลอดเลือดหัวใจตีบค่ะ มีการทดลองให้แมกนีเซียมเสริม 450 มก./วัน ในกลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูง พบว่าความลดลงมาก แต่ไม่มีผลในกลุ่มคนที่มีสุขภาพความดันปกติค่ะ
6. ต้านการอักเสบ
การอักเสบซ้ำๆ ภายในร่างกายเป็นผลนำมาซึ่งความแก่ชรา โรคอ้วนและมะเร็งได้ แพทย์จะทำการตรวจ CPR (C-reactive protine) หาค่าที่จะบ่งบอกถึงการอักเสบภายใน จากการสำรวจ เด็กที่มีค่าแมกนีเซียมต่ำทักจะพบค่าระดับน้ำตาลและ CPR ในระดับสูงด้วยค่ะ นักวิจัยชี้ว่า การทานแมกนีเซียมเสริมอาจสามารถช่วยลด CPR ได้ค่ะ
7. ลดปวดไมเกรน
ไมเกรนเป็นอาการปวดหัวเรื้อรัง มักจะปวดข้างเดียว ตาพร่า ไวต่อแสงและเสียงรบกวน อาจปวดมากจนมีอาเจียน ผลสำรวจพบว่าในกลุ่มผู้ที่มีอาการไมเกรนมีระดับแมกนีเซียมต่ำเกินเกณฑ์ งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าการทานแมกนีเซียม 1 กรัม สามารถช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้เร็วกว่าการทานยาด้วยค่ะ การทานแมกนีเซียมอย่างเพียงพอมีผลทำให้ลดความถี่ในการปวดไมเกรนลงได้ถึง 40% เลย
8. ลดอาการปวดประจำเดือน
อาการปวดก่อนประจำเดือน หรือ Premenstrual syndrome (PMS) เป็นหนึ่งในอาการที่พบได้มากในสาวๆ วัยรุ่นและวัยทำงาน มีอาการปวดท้อง อ่อนเพลียและหงุดหงิดง่าย เป็นที่ยอมรับกันค่ะว่า แมกนีเซียมสามารถปรับสมดุลอารมณ์ และลดอาการอื่นๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ
ในแต่ละวัน ร่างกายของเราต้องการแมกนีเซียมอยู่ที่ 320 – 360 มก. สำหรับผู้หญิง และ 400 – 420 มก. สำหรับผู้ชาย ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้นร่างกายของเราไม่สามารถผลิตเองได้ค่ะ เหล่านี้คืออาหารที่มีแมกนีเซียมอยู่ปริมาณมากค่ะ
- อัลมอนด์
- ถั่วลิสง
- ผักโขม
- ปลาแซลมอน
- ควินัว
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์
- คะน้า
- เมล็ดฟักทอง
- อะโวคาโด
- ข้าวโอ๊ต
- ข้าวสาลี
- ดาร์กช็อกโกแลต
แต่เพราะไม่สามารถทานอาหารเหล่านี้ได้ทุกวัน อีกทางเลือกหนึ่งคือการทานอาหารเสริมแมกนีเซียมค่ะ สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนสักหน่อยนะคะ ว่าเราทานแมกนีเซียมเสริมได้ไหม
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
Facebook Page: อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
Youtube : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
IG : dr.cant.help
LINE : Add เป็นเพื่อนผ่าน QR Code หรือค้นหา @bluphama
สามารถมาพูดคุยกับสมาชิก และคุณหมอได้ในกลุ่มเฟซบุ้คของเราได้เลยค่ะ
Group by อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ