ยาลดคอเลสเตอรอลอะไรบ้าง? ที่คนเป็นคอเลสเตอรอลสูงควรรู้จัก! ในคนที่มีคอเลสเตอรอล…

ยาลดคอเลสเตอรอลอะไรบ้าง? ที่คนเป็นคอเลสเตอรอลสูงควรรู้จัก!

ในคนที่มีคอเลสเตอรอลสูง และมีการทานยาในกลุ่ม Statin ซึ่งยาในกลุ่มนี้จะมีผลข้างเคียงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกล้ามเนื้ออักเสบ ตับอักเสบ ไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ เบาหวานแย่ลง การสร้างฮอร์โมนต่างๆ ผิดปกติ ซึ่งวันนี้เราจะพามารู้จะจักวิธีการคุมคอเลสเตอรอลให้ดี หรือสามารถปรับลดยาได้กันค่ะ
.
ยาลดคอเลสเตอรอล 3 ชนิด ที่คนเป็นคอเลสเตอรอลสูงควรจะรู้จัก
1. กลุ่ม Statin ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่แพทย์มักจะให้คนไข้ใช้กัน เป็นยาลดคอเลสเตอรอลในกลุ่มที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด แต่ในกลุ่มนี้มียาหลายตัว ซึ่งแนะนำให้ทานเพียงแค่ 2 ตัว คือ
1. Atorvastatin กิน 10 mg เท่านั้น กิน 3 วัน/สัปดาห์ เช่น กินวันจันทร์, วันพุธ, วันศุกร์ โดยในวันที่เราไม่ได้กินยาตับและไตของเราจะได้พัก
2. Rosuvastatin กิน 10 mg เท่านั้น กิน 2 วัน/สัปดาห์ เช่น กินวันจันทร์กับวันพฤหัสบดี หรือ วันอังคารกับวันศุกร์ ซึ่งวันอื่นๆ ที่ไม่ได้กินก็เพื่อให้ร่างกายเราได้พัก
.
(กรณีตัวอย่าง คนไข้ที่กินยากลุ่ม Statin ตัวยาชื่อว่า Simvastatin เป็นยาที่ประสิทธิภาพยังไม่ดีมากนัก ในคนไข้ที่เป็นเบาหวานแล้วต้องคุม LDL ให้น้อยกว่า 100 แล้วได้รับยา Simvastatin ขนาด 80 mg มากิน ซึ่งคนไข้กินยานี้เป็นเวลา 10 ปี ใน 10 ปีนี้คนไข้ต้องทำบอลลูนหัวใจถึง 5 ครั้ง เคสนี้ถือว่า กินยาลดคอเลสเตอรอลแล้วล้มเหลว เนื่องจากคนไข้ต้องไปทำบอลลูนหัวใจถึง 5 ครั้ง ทั้งๆ ที่กินยาลอคอเลสเตอรอลขนาดสูง 80 mg ไปแล้วนั่นเอง)
.
การที่ปรับยาลดคอเลสเตอรอลขึ้นเป็นเท่าตัวมีประสิทธิภาพในการลดคอเลสเตอรอลเพิ่มเติมเพียงแค่ 6% เท่านั้น แต่ว่ามีผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น 100% เลยทีเดียว หมายความว่า ถ้าเพิ่มยาจาก 10 mg เป็น 20 mg ผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น 100% , จาก 20 mg เป็น 40 mg ผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น 100% , จาก 40 mg เป็น 80 mg ผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น 100% แต่ว่ามีประสิทธิภาพในการลดคอเลสเตอรอลเพิ่มเพียงแค่ 6% เท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่คุ้มเลยกับการที่จะใช้ยาลดคอเลสเตอรอลในปริมาณสูง
.
กลุ่มยา Statin มีผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น ตับอักเสบ ไตวาย กล้ามเนื้ออักเสบ ไปลด CoQ10 ในร่างกาย มีหัวใจเต้นผิดจังหวะ เบาหวานแย่ลง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสมองเสื่อม เป็นต้น ซึ่งควรใช้ยาลดคอเลสเตอรอลในปริมาณน้อย
.
ในคนที่กินยากลุ่ม Statin ควรจะต้องกิน CoQ10 ไปด้วย ซึ่ง CoQ10 สำคัญอย่างมากต่อร่างกาย ทั้งเรื่องของหัวใจ เรื่องของสมอง แต่หากกินยากลุ่มยา Statin จะไปบล็อกการสร้าง CoQ10 ของร่างกายทำให้ร่างกายขาด CoQ10 เมื่อขาดจะทำให้หัวใจทำงานได้ไม่ดี ความเสี่ยงในการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะก็มากขึ้น*
.
2. กลุ่ม Ezetimibe กิน 10 mg เท่านั้น ตัวยา Ezetimibe ออกฤทธิ์ต่างกันกับกลุ่ม Statin ซึ่งกลุ่ม Statin เป็นกลุ่มหลักที่ได้ผลดี เพราะว่าไปยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอลในร่างกาย แต่กลุ่ม Ezetimibe จะลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลที่จะเข้าไปในร่างกาย เพราะฉะนั้นในคนที่กินยากลุ่ม Statin แล้วรู้สึกว่าผลยังไม่ดีพอให้เติมด้วยตัวยา Ezetimibe ไป ซึ่งพบว่าการใช้ Ezetimibe ร่วมกับ Statin จะเพิ่มประสิทธิภาพลดคอเลสเตอรอลได้อีก 21% – 23% เพราะฉะนั้นแทนที่จะไปเพิ่ม Statin แบบดับเบิ้ล (x2) ที่ลดเพิ่มได้ 6% ควรเพิ่ม Ezetimibe จะได้ผลดีกว่า แล้วตัวยา Ezetimibe เป็นยาที่ไม่มีผลข้างเคียง มีความปลอดภัยสูง หากใครที่ไม่อยากใช้ยา Statin จะมาใช้ตัว Ezetimibe อย่างเดียวก็ได้ แต่ว่าตัว Ezetimibe ตัวเดียวประสิทธิภาพการลดคอเลสเตอรอลยังทำได้ไม่ดีพอ ไม่สามารถเทียบกับ Statin ได้
.
3. อาหารเสริมที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล ในคนที่คอเลสเตอรอลสูงแล้วไม่มีโรคประจำตัวใดๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องกินยาใน 2 กลุ่มแรกข้างต้น สามารถมากินกลุ่มที่ 3 ก็พอแล้ว โดยกลุ่มนี้จะมีส่วนประกอบ 8 ตัว คือ
1. Red Yeast Rice เป็นข้าวหมักยีสต์แดง ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอล แนะนำให้กินเริ่มต้นที่ 600 mg แต่ในงานวิจัยใช้ไปถึง 1,800 mg แล้วพบว่า ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ไม่มีผลข้างเคียงเหมือน Statin แล้วตัว Red Yeast Rice จะช่วยลอกตะกอนแคลเซียมที่พอกอยู่ที่หลอดเลือดออก นั่นคือ การป้องกันหลอดเลือดเสื่อม
2. Policosanol เป็นสารสกัดจากเปลือกอ้อย มีโครงสร้างเหมือนกับ Statin ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ดีเหมือนกับ Statin โดยปราศจากผลข้างเคียงใดๆ ช่วยลด LDL และช่วยเพิ่ม HDL ได้ด้วย อีกฤทธิ์ที่สำคัญ คือ ช่วยในการบำรุงตับ ในคนที่กินยากลุ่ม Statin ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ใช้งานตับเยอะ ตัว Policosanol จะช่วยบำรุงและฟื้นฟูตับ ทำให้ตับไปสร้าง HDL หรือไขมันดีเพิ่มขึ้น อีกฤทธิ์หนึ่งที่ดี คือ ปกติเวลาที่เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โดยจะเกิดจากการที่มีเกล็ดเลือดไปอุดตัน ตัว Policosanol จะไปลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดได้ถึง 50% เลยทีเดียว แนะนำให้ทาน 5 mg ก็เพียงพอแล้ว (หรือทานได้ไปจนถึง 20 mg ก็ได้)
3. Nuttokinase ที่มาจากถั่วเน่าญี่ปุ่น ออกฤทธิ์อยู่ 3 อย่าง คือ 1. ช่วยละลายลิ่มเลือด 2. ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด 3. ชะลอความเสื่อมของหลอดเลือด ชะลอแคลเซียมที่จะมาเกาะทำให้หลอดเลือดไม่แข็งตัว ช่วยลดความดัน
4. Allicin คือ สารสกัดจากระเทียม ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยลดความดัน โดยการลดความดันด้วยการเพิ่มไนตริกออกไซด์ (ซึ่งจะเหมือนกับตัว L-Arginine) ซึ่งไนตริกออกไซด์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ป้องกันหลอดเลือดเสื่อม ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ถ้าอยากได้ Allicin ควรเอากระเทียมไปโขลก ไปตำ แล้วน้ำมันหอมระเหยในนั้นจะออกมาเยอะขึ้น แล้ว Allicin ก็จะออกมาเยอะขึ้นตามมาด้วย
5. CoQ10 เป็นตัวที่สำคัญมาก เพราะเวลาที่กินร่วมกับยา Statin ร่างกายจะต้องการ CoQ10 ด้วย แนะนำกิน 100 mg ซึ่งปกติเวลาที่ LDL จะไปเกาะที่หลอดเลือดจะต้องเปลี่ยนไปเป็น Oxidized LDL ก่อน แล้วตัว CoQ10 จะไปช่วยบล็อกไม่ให้ LDL ธรรมดาเปลี่ยนไปเป็น Oxidized LDL นั่นเอง
6. Niacin เป็นตัวที่ช่วยเพิ่ม HDL ได้ดีที่สุด เมื่อเพิ่ม HDL แล้วก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหัวใจขาดเลือด ซึ่งตัว HDL เป็นตัวที่จะไปเอาไขมันออกจากหลอดเลือดและไปทำลายทิ้งที่ตับ เพราะฉะนั้นการที่มี Niacin อยู่ในอาหารเสริมก็เป็นประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย
7. วิตามิน D3 และ 8. วิตามิน K2 ซึ่งวิตามิน 2 ตัวนี้จะช่วยป้องกันแคลเซียมที่จะไปเกาะหลอดเลือด ที่จะทำให้เกิดหลอดเลือดเสื่อมสภาพ โดยจะนำแคลเซียมที่อยู่ตามหลอดเลือดเอาไปไว้ที่กระดูก แล้วเป็นการป้องกันกระดูกบางกระดูกพรุนได้ด้วย
.
นี่ก็คืออาหารเสริมที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ดี สามารถทดแทนยาลดคอเลสเตอรลในกลุ่ม Statin ได้ ในคนที่ไม่ได้กินยา ไม่เป็นหัวใจขาดเลือด ไม่เป็นสโตรกต่างๆ ก็สามารถใช้อาหารเสริมในกลุ่มเหล่านี้ทดแทนได้เช่นกัน : )

ติดต่อเรา