5 กลุ่มยาเบาหวานที่คนเป็นเบาหวานควรจะรู้จัก
.
1. ยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย เป็นกลุ่มยาที่ไม่แนะนำให้ทานเลย โดยมีข้อสังเกต คือ จะให้ทานก่อนอาหาร ส่วนใครที่ทานยาเบาหวานก่อนอาหารอยู่ลองสังเกตกันดูให้ดีว่าเป็นยากลุ่มนี้หรือไม่ ยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรียเป็นตัวที่ลดน้ำตาลได้ดี แต่ว่าเป็นกลุ่มที่จะทำให้ตับอ่อนแย่ลง ซึ่งในระยะยาวจะทำให้เบาหวานแย่ลง แล้วยังเป็นยาเบาหวานที่ทำร้ายไตอีกด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรใช้ยาในกลุ่มนี้ ควรใช้เป็นกลุ่มอื่นทดแทน
.
2. ยาเมทฟอร์มิน เป็นยากลุ่มเบาหวานที่ใช้กันมากและเป็นยาเบาหวานที่ดี โดยให้ทานหลังอาหาร มีขนาดเม็ด 500 มิลลิกรัม และ 850 มิลลิกรัม เป็นกลุ่มยาเบาหวานที่ดีและสามารถทานได้ ยาเมทฟอร์มินเป็นยาที่ช่วยไปเปิดยีนส์ที่ทำให้อายุยืน หรือในคนที่ทำ IF ก็เป็นการที่ไปช่วยเปิดยีนส์ที่ทำให้อายุยืนได้เช่นกัน ยาเมทฟอร์มินเป็นยาที่ออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างดี ช่วยทำให้กล้ามเนื้อเราเอาน้ำตาลไปใช้ได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นในคนที่ทานยายาเมทฟอร์มินแล้วสามารถคุมน้ำตาลได้ดีจะทานไปได้เรื่อยๆ ก็ไม่มีปัญหา
แต่การทานยาเมทฟอร์มินต้องระวังการขาดวิตามิน B โดยวิตามินที่แนะนำสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน
คือ วิตามิน D กับวิตามิน B
– วิตามิน D จะช่วยให้ตับอ่อนสร้างอินซูลินได้ดีขึ้น ช่วยให้อินซูลินทำงานในการช่วยลดน้ำตาลให้ดีขึ้น
– วิตามิน B แนะนำให้ทานวิตามิน B100 ตัวเด่น คือ B1 กับ B6 พบว่า วิตามิน B1 กับ B6 ช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานได้ดี
ตัวที่แนะนำเพิ่ม คือ วิตามิน K2 กับ Fish Oil โดยปกติแล้วเบาโรคเบาหวานจะทำให้เกิดผลแทรกซ้อนเกี่ยวกับหลอดเลือด คือ หลอดเลือดเสื่อมสภาพ ซึ่งวิตามิน K2 จะช่วยป้องกันแคลเซียมไปเกาะหลอดเลือด ถ้าแคลเซียมไปเกาะหลอดเลือดจะทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและยิ่งเสื่อมสภาพลง แล้วเป็นวิตามินที่ช่วยป้องกันเรื่องของไตได้ดี ป้องกันการเกิดนิ่วต่างๆ ที่ไต เพราะว่าคนที่เป็นเบาหวานมักมีโอกาสเกิดไตวาย โดยมากแล้วคนไข้ที่ต้องล้างไตคือคนที่เป็นเบาหวาน ซึ่งวิตามิน K2 จะช่วยในเรื่องนี้ แล้วยังช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ และป้องกันหลอดเลือดเสื่อมสภาพ
ในส่วนของ Fish Oil คือ ช่วยลดการอักเสบ ยิ่งในคนที่เป็นเบาหวานเมื่อมีระดับน้ำตาลสูงๆ จะทำให้หลอดเลือดมีการอักเสบอยู่แล้ว ซึ่ง Fish Oil จะไปช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดนั้น
.
3. ยากลุ่ม GLP-1 เป็นยาที่ควรใช้รักษาเบาหวานเป็นอย่างมาก โดยยากลุ่ม GLP-1 เป็นตัวที่ไปแก้ไขที่ต้นเหตุของเบาหวานเลย โดยจะไปกระตุ้นการสร้างตับอ่อน การฟื้นฟูตับอ่อน โรคเบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากการที่ตับอ่อนเสื่อมสภาพ เมื่อได้รับยากลุ่ม GLP-1 ไปก็จะไปกระตุ้นการสร้างตับอ่อนให้ตับอ่อนฟื้นฟู พอเวลาที่กระตุ้นการสร้างตับอ่อนแล้วจะให้ตับอ่อนมาคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้เอง ปกติแล้วการใช้ยายากลุ่ม GLP-1 จะให้ใช้ประมาณ 3 เดือน จากนั้นก็หยุด เพื่อมาดูว่าเราฟื้นฟูตับอ่อนเกิน 3 เดือนแล้วจะสามารถคุมน้ำตาลได้เองหรือเปล่านั่นเอง
.
4. ยากลุ่ม DPP-4 ปกติลำไส้เล็กของเราเป็นตัวสร้าง GLP-1 ขึ้นมา ซึ่ง DPP-4 เป็นตัวที่ทำให้ GLP-1 ของร่างกายออกฤทธิ์อยู่ได้นานขึ้น แต่ยากลุ่มนี้ควรลองใช้ดูในคนที่เป็นเบาหวาน ในคนที่เป็นเบาหวานบางคนใช้แล้วไม่ได้ผล เพราะว่าคนเป็นเบาหวานบางคนลำไส้เล็กสร้าง GLP-1 ได้น้อย เพราะฉะนั้นการใช้ DPP-4 ไปก็จะไม่ค่อยช่วย เพราะว่า GLP-1 มีน้อยอยู่แล้ว
5. ยากลุ่ม SGLT2 หรือเรียกว่า ยาฉี่หวาน เวลาคนที่ใช้ยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย แล้วเวลาหมอถอดออกแล้วหมอก็จะเอายาฉี่หวานนี้มาแทน ซึ่งปกติแล้วไตของเราจะไม่ยอมปล่อยให้กลูโคสหลุดออกไปจะเก็บกลูโคสกลับหมดเลย แต่ยาฉี่หวานจะเป็นยาที่ทำให้ไตเราปล่อยให้กลูโคสออกไป โดยยาฉี่หวานจะต้องทานตอนเช้าเท่านั้น แล้วดื่มน้ำเยอะๆ ตามไปด้วย ยิ่งเมื่อเราดื่มน้ำเยอะพอเวลาที่เราปัสสาวะร่างกายเราจะขับกลูโคส ขับน้ำตาลส่วนเกินออกไป ช่วยให้น้ำตาลในเลือดดีขึ้น โดยยากลุ่มนี้มีข้อควรระวัง คือ เวลาที่ทานยากลุ่มนี้ คือ ให้ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยขับน้ำตาลออกไป และควรดูแลรักษาทำความสะอาดของอวัยวะเพศให้ดี เพราะต้องระวังเรื่องของการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ โดยเฉพาะผู้ชายเพราะว่าผู้ชายมักไม่ค่อยทำความสะอาดอวัยวะเพศ เมื่อเวลาที่ปัสสาวะออกมาแล้วแล้วมีน้ำตาลอยู่แบคทีเรียจะชอบน้ำตาล เพราะฉะนั้นมีโอกาสในการติดเชื้อแบคทีเรียจึงมีสูงนั่นเอง
ดังนั้น คนที่เป็นเบาหวานควรทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 5 กลุ่มยาเบาหวานเป็นอย่างดี เพื่อที่จะช่วยดูแลสุขภาพ มีวิธีการปฏิบัติตัว การใช้ยาให้เหมาะสมกับโรคเบาหวานของตัวเอง เพื่อจะได้ใช้ยาอย่างถูกต้องและถูกประเภท โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคกันนะคะ : )
สนใจสินค้าสุขภาพที่คุณหมอพูดถึง สามารถสั่งซื้อได้ทาง Inbox หน้าเพจ
หรือ Line@ของคลีนิคค่า
✅LINE : https://lin.ee/piE9kvf
——————————-
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
📌 เพจ : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 Youtube : https://youtube.com/c/อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
📌 IG : dr.cant.help
