อาหาร 8 อย่างที่ช่วยดูแลสุขภาพเรา

“You are what you eat” กินอย่างไรได้อย่างนั้น ยังคงเป็นประโยคอมตะและเป็นความจริงอย่างที่สุดมาตั้งแต่ที่มันถูกกล่าวขึ้นครั้งแรกเมื่อเกือบ 200 ปีก่อน 

การกินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้ชะตาความป่วยไข้ของคุณ เพราะอาหารที่เรารับเข้าสู่ร่างกาย ไม่เพียงแต่ให้พลังงาน แต่ด้วยแร่ธาตุและสารอาหารที่มีในแต่ละส่วนประกอบ ทำให้อาหารมีผลกับระบบภูมิคุ้มกัน ระบบที่ร่างกายใช้ทั้งป้องกันและกำจัดโรคร้ายต่างๆ ถ้ากินดี สุขภาพก็ดีตามไปด้วย หากไม่อยากฝากชีวิตไว้กับหมอ นี่คือบรรดาอาหารที่เราจะขอแนะนำให้คุณทานเป็นประจำค่ะ

สาหร่ายทะเล 

ไอโอดีน เป็นธาตุสำคัญที่ต่อมไทรอยด์ใช้ผลิตฮอร์โมน หากรับไอโอดีนไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะขาดไอโอดีน เฉื่อยชา น้ำหนักตัวเพิ่มและอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย โรคคอพอกและต่อมไทรอยด์เป็นพิษ 

อาการขาดไอโอดีนยังเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วยค่ะ ทั้งมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งเยื่อบุมดลูก เป็นต้น

ในหนึ่งวัน ร่างกายต้องการไอโอดีนอยู่ที่ 150 ไมโครกรัม แต่ร่างกายของคนเราไม่สามารถผลิตไอโอดีนเองได้ การรับมันเข้าสู่ร่างกายจึงมาจากอาหารเท่านั้นค่ะ สาหร่าย อุดมไปด้วย แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียมและโดยไอโอดีน แต่ถึงแม้ไอโอดีนจะเป็นประโยชน์กับร่างกาย แต่ไม่ได้แปลว่า ยิ่งมากยิ่งดีนะคะ การบริโภคไอโอดีนเกินจำเป็นก็อาจทำให้เกิดผลเสียเช่นเดียวกันได้ นอกจากสาหร่าย ยังมี คะน้าใบหยิก (Kale) ถั่วเขียว พาสเล่ กวางตุ้ง ผักโขม ที่มีไอโอดีนสูงอยู่ด้วย

ขิง

ตั้งแต่สมัยโบราณกาล ขิงถือเป็นยาสามัญที่ช่วยให้ย่อย ลดอาการท้องอืด แน่น จุกเสียดและช่วยลดอาการข้ออักเสบ มันยังช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้อาเจียนหลังผ่าตัด เราสามารถใช้ประโยชน์จากขิงได้แทบทุกส่วน เหง้า ต้น รวมทั้งราก สามารถใช้ทำอาหารและเครื่องดื่ม หรือเป็นน้ำมันสกัดหรือแคปซูลสกัดจากขิงก็ได้ค่ะ

เห็ด

ไม่ว่าจะเป็นเห็ดหอม เห็ดเชมปิญอง เห็ดพ็อตโตเบลโล้ หลินจือและเห็ดอีกหลายชนิด มันสามารถเสริมประสิทธิภาพในการสร้างภูมิต้านทานได้ งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าเห็ดหอมสามารถต้านมะเร็งได้ดี เนื่องจากมีสาร Lentinan ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการทำลายเซลล์มะเร็งดีขึ้นและต้านไวรัสดีขึ้น รวมทั้งมำให้ผู้ป่วยมะเร็งฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้นหลังรับการรักษาด้วยค่ะ

ไขมันดี vs ไขมันเลว 

หลายคนที่ลดน้ำหนักลักอยู่ ด้วยความกังวลเรื่องการควบคุมแคลอรี่มักทำให้คุณต้องหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันที่มีพลังงานสูงอยู่เสมอ แต่ต้องอย่าลืมว่าไขมันก็เป็นสารอาหารสำคัญ โดยเฉพาะกับสมองนะคะ ดังนั้น อย่าตัดขาดไม่ญาติดีกับไขมันจนเกินไป เพียงแต่ ให้คุณเลือกทานไขมันที่ดีแทนไขมันเลวก็พอค่ะ

อาหารที่เป็นไขมันดี ได้แก่ ไขมันจากปลา โดยเฉพาะปลาจากเขตน้ำเย็น จะช่วยเสริมโอเมก้า 3, อโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว ถั่วอัลมอนด์ พีแคนและวอลนัท การทานไขมันดีจะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ด้วยค่ะ

บีทรูท

ในแต่ละวัน ร่างกายต้องรับคาร์โบไฮเดรตเพื่อใช้เป็นพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ แต่คาร์โบไฮเดรตในยุคของเราที่ใครๆ ก็ผลิตสินค้าออกมาขายแข่งกับเวลา ทำให้คาร์บสมัยนี่ไม่ได้ให้สารอาหารอย่างอื่นเลยนอกจากคาร์โบไฮเดรต 

บีทรูท เป็นแหล่งพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตธรรมชาติที่มีสารอาหารและแร่ธาตุครบถ้วน ในบีทรูทนอกจากคาร์โบไฮเดรตแล้ว ยังมีเเคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามิน A และ C 

การทานบีทรูทจะช่วยทำให้อิ่มท้อง ลดอาการอยากทานจุกจิกระหว่างวัน ซ้ำยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งอีกด้วยนะคะ

โพรไบโอติก 

โพรไบโอติกเป็นจุลินทรีย์มีชีวิต มีหลายสายพันธุ์ เช่น แลคโตบาซิลลัส เป็นจุลินทรีย์ที่เป็นมิตรกับร่างกาย เราสามารถหาพวกมันได้มากในโยเกิร์ต คีเฟอร์ นมถั่วเหลือง ของหมักดอง รวมทั้งดาร์คช็อคโกแลต โพรไบโอติกมีคุณสมบัติช่วยต้านโรคมะเร็ง โรคผิวหนังติดเชื้อ ท้องร่วง และโรคลำไส้แปรปรวนได้ค่ะ

แคลเซียม

แคลเซียม เป็นอีกอย่างทีร่างกายผลิตไม่ได้ แต่จำเป็นกับสุขภาพมากๆ เรากำลังพูดถึงแคลเซียมที่มาจากอาหารนะคะ ไม่ใช่แคลเซียมที่อัดอยู่ในแคปซูล แคลเซียมจะมีอยู่มากในผลิตภัณฑ์จากนม ผักใบเขียว ถั่ว ไข่ ปลาทะเลเขตน้ำเย็น เช่น แซลมอนและซาดีน แคลเซียมช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ป้องกันไม่ให้กระดูกพรุน เปราะ บาง หัก 

นอกจากแคลเซียม ร่างกายยังต้องการวิตามิน D คู่ซี้ของแคลเซียมที่มีอยู่ในแดดเช้า ไข่แดงและปลาในเขตน้ำเย็นเช่นกัน มันจะช่วยให้ร่างกายดูดซับแคลเซียมได้ดี หากรับแคลเซียมเพียงพอแต่ขาดวิตามิน D แคลเซียมที่ทานเข้าไปก็จะสูญเปล่าค่ะ ร่างกายไม่สามารถดูดซับได้ ทีนี่โรคกระดูกพรุนก็จะตามมาค่ะ 

สวิสชาร์ด

สวิสชาร์ด (swiss chard) มีใบกว้างสีเขียว และก้านสีขาว เหลืองหรือแดง เป็นพืชตระกูลเดียวกับบีทรูท อุดมไปด้วยวิตามิน C, E และ K  ไฟเบอร์ สังกะสีและแคลเซียม เนื่องจากมันอุดมไปด้วยธาตุที่เป็นประโยชน์ มันจึงช่วยให้กระดูกแข็งแรง ลดความเสี่ยงจากโรคที่มีสาเหตุจากความเครียด ลดการอักเสบ ช่วยขับพิษออกจากได้ สวิสชาร์ดยังเป็นผักปลูกง่าย ใช้พื้นที่น้อย ใช้แทนผักโขมหรือผักสลัดได้ สามารถกินได้ทั้งสดๆ และผัดหรือต้มให้สุกก็ได้ค่ะ 

อาหารเหล่านี้เป็นประโยชน์กับร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ที่เป็นเสมือนหน่วยรบคอยต่อสู้กับแบคทีเรีย เชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม สารก่อมะเร็งและมลภาวะต่างๆ นอกจากอาหารการกิน ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ภูมิคุ้มกัน เช่น การนอนหลับพักผ่อน ออกกำลังกาย ความเครียด การสูบบุหรี่ เป็นต้น ทั้งที่ได้รับเชื้อโรคชนิดเดียวกัน คนกลุ่มหนึ่งกลับป่วย แต่อีกกลุ่มสบายดี สาเหตุหนึ่งก็เพราะเจ้าภูมิคุ้มกันนี่เองค่ะ 

หากดูแลภูมิคุ้มกันของเราให้ดี สุขภาพแข็งแรงซะอย่าง อะไรก็ทำเราไม่ได้ 

เพราะสุขภาพเป็นของเราอย่าฝากชีวิตไว้กับหมอนะคะ 🙂

ติดต่อเรา