นอกจากอาการอ่อนเพลีย มีไข้ ไอแห้งหายใจลำบากแล้ว การสูญเสียการได้กลิ่นและการรับรสก็เป็นอีกอาการหนึ่งของ COVID-19 ที่เราไม่ควรมองข้าม
แต่การสูญเสียการได้กลิ่น (anosmia) นั้นก็เป็นอาการหนึ่งของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ประมาณร้อยละ 30 ซึ่งถือว่าเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในผู้ป่วยทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัส ผู้ป่วยภูมิแพ้ หรือผู้มีอาการผิดปกติทางระบบประสาท แต่ส่วนใหญ่การสูญเสียการได้กลิ่นที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 นั้น จะมีอาการค่อนข้างเฉียบพลัน ไม่ใช่ว่าได้การได้กลิ่นค่อยๆ ลดลงทีละน้อย
ในกรณีของ Holly Bourne หญิงสาวผู้อาศัยในลอนดอน เธอไม่รู้ตัวว่าตนเองสูญเสียการได้กลิ่น จนกระทั่งแฟนของเธอถามว่าทำไมได้กลิ่นไหม้ ปรากฏว่าเธอวางกล่องมาการีนที่เป็นพลาสติกไว้บนเตาไฟฟ้าที่เปิดอยู่ และกล่องเริ่มละลาย แต่ตัวเธอไม่ได้กลิ่นไหม้แต่อย่างใด
ในช่วงวันที่ 24-29 มีนาคม 2020 มึผู้แจ้งอาการป่วย 400,000 คนในประเทศอังกฤษ มีการสูญเสียการได้กลิ่น 18% และมีไข้ 10% แต่ในช่วงนั้น ยังไม่สามารถตรวจ COVID-19 ให้กับทุกคนได้ แต่ถือว่าการสูญเสียการได้กลิ่นนั้นเป็นข้อสังเกตเบื้องต้นที่ชัดเจนกว่าอาการไข้
หากวันหนึ่งตื่นมาแล้วไม่ได้กลิ่นจะทำอย่างไรดี?
อย่าเพิ่งตื่นตกใจจนกังวลไปมาก แต่ควรแยกตัวจากคนรอบข้างก่อน และดูอาการต่อไปสักพัก แต่ถ้าเรามีประวัติสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ป่วย COVID-19 มาก่อน แม้จะยังไม่มีอาการอื่น หรือมีอาการอื่น ๆ ของ COVID-19 ร่วมด้วยก็ควรจะไปตรวจที่โรงพยาบาลทันที
และหากมีไข้สูงเกิน 2 วัน และเริ่มหายใจลำบาก ควรพบแพทย์โดยด่วนที่สุด
หากการสูญเสียการได้กลิ่นนั้นเกิดจาก COVID-19 ประสาทการรับรู้กลิ่นจะกลับมาภายใน 2 วันถึง 2 สัปดาห์ หรืออาจจะนานถึง 3-4 สัปดาห์ก็เป็นได้ ตามแต่ความหนักเบาของอาการ
หากการสูญเสียการได้กลิ่นนั้นเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ โดยไม่มีอาการไข้หรือไอร่วมด้วย ควรพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เมื่อป่วยแล้วจะมีอาการหนัก
โดยระยะเวลาของการสูญเสียการได้กลิ่นนั่น สามารถบ่งชี้ได้ว่า อาการของ COVID-19 นั้นหนักเพียงใด
หากใครกังวลมาก ตื่นเช้ามา ก็เริ่มสูดกลิ่นของใช้ในชีวิตประจำวันก่อน เช่น ยาสีฟัน สบู่ ถ้ากลิ่นยังชัดเจน รู้สึกร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ ก็สบายใจได้
ที่มา
https://www.healthline.com/health-news/covid-19-losing-sense-of-smell#What-if-its-COVID-19?
https://www.msn.com/en-us/health/health-news/sense-of-smell-was-lost-by-some-people-weeks-ago-theyre-still-waiting-for-it-to-come-back/ar-BB12v4V7