![ในภาพอาจจะมี ข้อความพูดว่า "อย่าฝาก ชีวิต ไว้กับหมอ ภาวะไขมันแทรกตับ แก้ไขได้ READMORE "](https://www.drcanthelp.com/wp-content/uploads/2021/02/75407789_264183185010110_4190672981331845251_o-1024x683.jpg)
ตับเป็นอวัยวะภายในที่มีขนาดใหญ่ที่สุด อยู่ในท้องด้านขวาบน มีหน้าที่หลายอย่าง เช่น
- นำสารอาหารจากการย่อยอาหารมาให้ร่างกายเราใช้งานได้ เช่น สร้างโปรตีนอันบูมิน (โปรตีนไข่ขาว) ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
- สะสมอาหาร เช่น เก็บกลูโคสในรูปของไกลโคเจน ไว้เป็นพลังงานสำรอง
- ควบคุมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- กำจัดสารเคมีหรือสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย
![ในภาพอาจจะมี ข้อความ](https://www.drcanthelp.com/wp-content/uploads/2021/02/106218976_264183091676786_1681473935483116871_n.jpg)
ตับของคนเรามีไขมันอยู่ในเซลล์ตับได้บ้างเล็กน้อย แต่หากมีไขมันเกิน 5% ถือว่าเป็นภาวะไขมันแทรกตับ หรือที่เรียกว่าไขมันเกาะตับ ไขมันพอกตับ
ไขมันแทรกตับอาจเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ หรือเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งเป็นภาวะไขมันแทรกตับที่ไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ (non alcoholic fatty liver disease – NAFLD) แต่ถ้าไม่มีการตรวจพบและรักษาในเบื้องต้น และทิ้งไว้นานๆ จนมีการอักเสบเกิดขึ้นในตับ จะเรียกว่าโรคตับอักเสบจากไขมันแทรกตับ (nonalcoholic steatohepatitis – NASH) ทำให้ตับมีความเสียหาย กลายเป็นตับแข็ง ตับวาย หรือมะเร็งตับได้
สาเหตุของภาวะไขมันแทรกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์
![ในภาพอาจจะมี ข้อความ](https://www.drcanthelp.com/wp-content/uploads/2021/02/75242263_264183161676779_7671301480397231462_n.jpg)
มีสาเหตุมาจากโรคอ้วน มีไขมันหน้าท้องมาก ภาวะดื้อต่ออินซูลิน การรับประทานอาการที่มีแป้งและน้ำตาลมากเกินไป หรือภาวะลำไส้รั่ว (leaky gut)
ภาวะไขมันแทรกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ ในระยะเริ่มต้นจะยังไม่ทำลายตับมากนัก ตับสามารถคืนสภาพเดิมได้ แต่โดยทั่วไปจะไม่แสดงอาการในเบื้องต้น และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอื่นๆ ได้ด้วย เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคไต
ไขมันแทรกตับ มีอาการเบื้องต้นบ้างไหม?
![ในภาพอาจจะมี ข้อความ](https://www.drcanthelp.com/wp-content/uploads/2021/02/106804630_264183108343451_9191799563188761734_n.jpg)
นบางคนจะมีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้องตรงกลางหรือด้านขวา มีการเพิ่มขึ้นของค่าเอนไซม์ตับ AST และ ALT ระดับอินซูลิน และค่าไตรกลีเซอไรด์ แต่ในบางคนอาจไม่มีอาการใดๆ เลย ดังนั้นอาจตรวจพบเบื้องต้นได้ด้วยการเจาะเลือด
แต่หากตับมีอาการอักเสบแล้ว จะมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องปานกลางถึงมาก ตาเหลืองและตัวเหลือง
มีภาวะไขมันแทรกตับแล้ว ทำอย่างไรดี?
![ในภาพอาจจะมี ข้อความ](https://www.drcanthelp.com/wp-content/uploads/2021/02/106088018_264183271676768_7029858600057636591_n.jpg)
ตับของคนเราสามารถซ่อมแซมตัวเองขึ้นมาได้ แต่ต้องใช้เวลา และเจ้าของตับต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ลดน้ำหนัก ลดการบริโภคน้ำตาลและแป้ง โดยเฉพาะแป้งขัดขาว
- 16% ของไขมันที่แทรกในตับนั้นมาจากไขมันที่รับประทานเข้าไป
- 26% เป็นคาร์โบไฮเดรตส่วนเกินที่เปลี่ยนสภาพเป็นไขมัน และมาจากอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลฟรุกโตสสูง
รูปแบบการรับประทานอาหารที่มีแป้งขัดขาวน้อย เช่น low-carb diet, Mediterranean diet หรือ low-glycemic index diet สามารถคืนสภาพตับจากภาวะไขมันแทรกตับได้
อาหารที่ช่วยในการจำกัดไขมันแทรกตับ
- อาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ได้จากน้ำมันมะกอก อโวคาโด ถั่ว
- เวย์โปรตีน มีการศึกษาในผู้หญิงอ้วนว่าสามารถลดไขมันในตับได้ถึง 20% และอาจช่วยลดค่าเอนไซม์ตับได้
- ชาเขียว สารต้านอนุมูลอิสระชื่อ catechins ที่พบในชาเขียว สามารถช่วยลดไขมันแลอาการอักเสบของภาวะไขมันแทรกตับได้
- ผักตระกูลกะหล่ำ (Cruciferous vegetables) เช่น เคล คะน้า ผักโขม บร็อคโคลี่ และผักอื่นๆ เช่น กระเทียม ขมิ้นชัน
- กรดไขมัน omega-3 พบได้มากในปลาที่มีไขมันมาก ช่วยลดไขมันในตับ ไขมันที่เกาะรอบไ หัวใจ และไขมันช่องท้องได้
การจะลดไขมันแทรกตับนั้น เราจะต้องหยุดการกระทำที่ทำลายตับ เช่น การกินอาหารที่ส่งผลเสียต่อตับที่กล่าวไว้ข้างต้น การดื่มแอลกอฮอล์ ลดและงดยาบางชนิดที่ส่งผลเสียต่อตับ สำหรับคนที่ติดการดื่มแอลกอฮอล์ อาจทดลองดื่ม kombucha แทน เนื่องจากมีแอลกอฮอล์เล็กน้อย แต่ยังมี probiotics และได้คุณประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระในใบชา
การออกกำลังกายก็ช่วยลดไขมันแทรกตับได้
![](https://www.drcanthelp.com/wp-content/uploads/2021/02/106700613_266178251477270_2954695650763606967_n-1.jpg)
การออกกำลังกายแบบ endurance (แบบเน้นความอึด) หรือ resistance training (แบบใช้แรงต้าน) หลายครั้งต่อสัปดาห์จะสามารถลดไขมันที่เก็บไว้ในเซลล์ตับได้ แม้ว่าน้ำหนักจะไม่ได้ลดลงก็ตาม
มีการศึกษาให้ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอ้วนจำนวน 18 คน ทำการออกกำลังกาย 30-60 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ต่อเนื่องกัน ค้นพบว่า ไขมันในตับลดลงไปถึง 10%
การออกกำลังกายแบบ HIIT
![](https://www.drcanthelp.com/wp-content/uploads/2021/02/106098208_266178314810597_5752540823701327477_n.jpg)
(High-intensity interval training) ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบหนักช่วงสั้นๆ สลับกับการออกกำลังกายเบาๆ ก็ส่งผลดีต่อภาวะไขมันแทรกตับ โดยมีการศึกษาในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 28 คน ให้ออกกำลังกายแบบ HIIT ต่อเนื่องกัน 12 สัปดาห์ สามารถลดไขมันในตับได้มากถึง 39%
ในคนที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนักๆ ได้ การออกกำลังในระดับเบาก็สามารถลดไขมันในตับได้ จากการศึกษาในประเทศอิตาลี ผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 22 คน ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 1 ปี สามารถลดไขมันในตับและไขมันหน้าท้องได้ใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะออกกำลังกายหนักหรือเบา ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หากเรามีภาวะไขมันแทรกตับในระยะเริ่มต้น เราสามารถคืนสภาพให้ตับได้ไม่ยาก ดังนั้นควรใส่ใจตรวจสุขภาพตามระยะเวลา รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ เราก็สามารถชุบชีวิตใหม่ให้ตับของเราได้
https://www.healthline.com/nutrition/fatty-liver
https://www.healthline.com/nutrition/8-benefits-of-kombucha-tea
บทความที่คุณอาจสนใจในคลังความรู้ของเรา:
กินเบคอนยังไงให้สลายไขมัน!
Egg Fasting
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
Facebook Page: อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
Youtube : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
IG : dr.cant.help
LINE : Add เป็นเพื่อนผ่าน QR Code หรือค้นหา @bluphama
สามารถมาพูดคุยกับสมาชิก และคุณหมอได้ในกลุ่มเฟซบุ้คของเราได้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/groups/1131079083894264/