9 สิ่งที่ต้องคุมถ้าไม่อยากเส้นเลือดสมองแตก

Photo of article 9 สิ่งที่ต้องคุมถ้าไม่อยากเส้นเลือดสมองแตก

9 สิ่งที่ต้องคุม…ถ้าไม่อยากเส้นเลือดสมองแตก

       หลายคนอาจจะเคยเห็นคนที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต นอนติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งการที่เป็นโรคนี้คือ มักเป็นแบบกะทันหัน บางทีอยู่ดีๆ เส้นเลือดจะแตกก็แตกเลย แตกปุ๊ปก็มีอาการเลย นอกจากจะลำบากตัวเองแล้ว ยังลำบากคนที่เรารัก ลำบากครอบครัวที่จะต้องคอยมาดูแลและรับผิดชีวิตของตัวเราหลังเรามีอาการเหล่านั้น ซึ่งเราควรต้องคุมสิ่งนี้กันเพื่อที่จะป้องกันการเกิดเส้นเลือดในสมองแตก

1. คุมเรื่องความดันโลหิต

ความดันโลหิตเป็นตัวหลักที่ทำเกิดปัญหาหลอดเลือดสมอง พบว่า 80% ของคนที่เกิดหลอดเลือดสมองแตกเป็นความดันโลหิตสูง เพราะฉะนั้นถ้าคุมเรื่องความดันโลหิตได้ดีก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดสมองแตกได้ ความดันโลหิตที่ดี คือ ความดันโลหิตที่ต่ำกว่า 120/80

2. การออกกำลังกาย

การที่วันๆ หนึ่งเราได้แต่นั่งๆ นอนๆ ไม่ได้ออกกำลังกาย ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดเราเสื่อม เมื่อเกิดหลอดเลือดเสื่อมก็จะเกิดปัญหาของเรื่องหลอดเลือดสมองแตกได้ง่าย เพราะฉะนั้นพยายามขยับร่างกาย หรือออกกำลังกายได้จะยิ่งดีก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงนี้ได้

3. การสูบบุหรี่

ซึ่งการสูบบุหรี่ทำให้เกิดหลอดเลือดเสื่อมได้อย่างตรงเลย

4. การอักเสบเรื้อรัง

ซึ่งพอหลอดเลือดมีการอักเสบ หลอดเลือดก็จะค่อยๆ เสื่อม การอักเสบเรื้อรังเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังต่างๆ แทบทั้งหมด การลดการอักเสบเรื้อรัง มี 2 ข้อ คือ 1. น้ำตาล กินน้ำตาลน้อยๆ เพราะน้ำตาลทำให้เกิดการอักเสบ 2. น้ำมัน ปกติการอักเสบจะขึ้นอยู่กับไขมันด้วย การดูการอักเสบดูที่สัดส่วนของโอเมก้า 3 ต่อ โอเมก้า 6 ซึ่งโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่ดี มีปริมาณเยอะจะยิ่งดี ส่วนโอเมก้า 6 เป็นกรดไขมันที่ไม่ดี ที่ทำให้เกิดการอักเสบ สัดส่วนของ 2 สิ่งนี้ คือ โอเมก้า 3 อยู่ 1 ส่วน ส่วนตัวโอเมก้า 6 อยู่ 3-4 ส่วน ควรอยู่ในสัดส่วนประมาณนี้ แต่ในทุกวันนี้เวลาที่กินอาหารและผลตรวจออกมาสัดส่วนจะอยู่ที่ 1 ต่อ 10 หรือ 1 ต่อ 20 ซึ่งถ้าเป็นสัดส่วนในปริมาณนี้จึงทำเกิดการอักเสบสูง

ในการกินน้ำมัน แนะนำให้ใช้ น้ำมันมะกอกสดๆ เลือกซื้อแบบ Extra Virgin โดยจะเลือกกินกับสลัดหรือจะใส่ช้อนแล้วกินสดๆ เลยก็ได้ ควรทานทุกวัน วันละ 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันที่นำมาผัด แนะนำให้ใช้ น้ำมันรำข้าว น้ำมันรำข้าวกับน้ำมันมะกอกโครงสร้างใกล้เคียงกัน แต่ว่าน้ำมันรำข้าวทนความร้อนได้สูงกว่าน้ำมันมะกอก เพราะฉะนั้นเวลาที่จะเอามาผัดอาหารควรใช้น้ำมันรำข้าวจะดีกว่า

น้ำมันที่จะเอาไปทอดในความร้อนสูงๆ แนะนำให้ใช้ น้ำมันมะพร้าว เพราะน้ำมันมะพร้าวทนความร้อนได้สูง น้ำมันมะพร้าวไม่ได้มีโอเมก้า 6 ที่จะทำให้เกิดการอักเสบ และน้ำมันมะพร้าวก็ไม่ได้มีโอเมก้า 9 หรือ โอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งน้ำมันมะพร้าวกินแล้วอาจะไม่ได้ประโยชน์แต่ก็ไม่มีโทษเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงให้ใช้น้ำมันมะพร้าวเฉพาะเวลาทอด เพราะทนความร้อนได้สูง

5. ความอ้วน

ซึ่งความอ้วนก็จะทำเกิดความเสี่ยงของหลอดเลือดสมองมากกว่า เพราะว่าเซลล์ต่างๆ ที่อยู่ตามพุง ตามช่องท้องของเราจะสร้างการอักเสบขึ้นมา ทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น เวลาที่มีการอักเสบมากขึ้นก็จะทำให้มีความเสี่ยงเรื่องของหลอดเลือดสมองได้มากขึ้น

6. คุมน้ำตาลให้ดี

ในคนที่เป็นเบาหวานก็ต้องคุมเบาหวานให้ดี เพราะน้ำตาลเยอะจะทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย การคุมน้ำตาลให้ดูที่น้ำตาลสะสม หรือ Hemoglobin A1c คุมให้ต่ำกว่า 5.5 ลงมา ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงเหล่านี้น้อยลง

7. คุมคอเลสเตอรอล

การคุมเรื่องของไขมัน คือ พยายามให้ตัว HDL (ไขมันดี) HDL ควรสูงกว่า 40 ถ้ามี HDL ต่ำก็จะเกิดความเสี่ยงเหล่านี้ขึ้น ส่วน LDL (ไขมันเลว) ไม่ควรเกิน 3 เท่าของ HDL พยามคุมให้ได้ในปริมาณนี้

8.  คุมกรดยูริก

หรือที่หลายคนคิดว่าทำให้เป็นเก๊า โดยการคุมกรดยูริกให้ต่ำกว่า 6 ทั้งผู้ชายและผู้หญิง

9.  ตรวจสอบค่า  Homocysteine

เป็นค่าที่บ่งบอกการอักเสบของหลอดเลือด โดยยูริกกับ Homocysteine มีโครงสร้างที่เหมือนกัน มีลักษณะเหมือนผลึกเข้ม ถ้าปล่อยให้อยู่ในหลอดเลือดนานๆ ผลึกเข้มเหล่านี้ก็จะขูดกับผนังหลอดเลือดทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการอักเสบ และก็เกิดปัญหาของหลอดเลือดสมองได้ง่าย ซึ่ง Homocysteine บอกเรื่องการอักเสบของหลอดเลือดและยังบอกเรื่องของภาวะการขาดวิตามินของร่างกายได้ ซึ่งถ้ามี Homocysteine สูงๆ ก็จะบ่งบอกเรื่องการขาดวิตามิน B โดยเฉพาะ B6, B9. B12 ดังนั้นถ้ามีโอกาสควรตรวจ Homocysteine ด้วยก็จะดีต่อร่างกาย

จะเห็นได้ว่า อาการของเส้นเลือดสมองแตก เป็นอาการที่ส่งผลกระทบต่อตัวเอง แล้วยังส่งผลกระทบต่อคนที่เรารัก ครอบครัว เราจึงควรต้องดูแล ควบคุม และป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดเส้นเลือดสมองแตกดังข้างต้นแล้ว ยังสามารถเสริมได้ด้วยอาหารเสริมที่ช่วยป้องกันการเกิดเส้นเลือดในสองแตก คือ 

  • Fish Oil ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือด ป้องกันหลอดเลือดเสื่อม และลดการอักเสบเรื้อรังซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังต่างๆ 
  • วิตามิน K ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ช่วยเรื่องหัวใจและหลอดเลือด ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

ดังนั้น ถ้าเราไม่อยากเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต นอนติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เราจึงต้องดูแลสุขภาพร่างกายของเรามาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก และป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่จะก่อเกิดในร่างกายของเรา ควรใส่ใจสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือทานอาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเราก็ได้เช่นกันค่ะ : ) 

ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพ และวิธีการดูแลสุขภาพได้ที่
Facebook Page: อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
Youtube : อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ
IG : dr.cant.help
LINE : Add เป็นเพื่อนผ่าน QR Code หรือค้นหา @bluphama

สามารถมาพูดคุยกับสมาชิก และคุณหมอได้ในกลุ่มเฟซบุ้คของเราได้เลยค่ะ
Group by อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ

ติดต่อเรา